โดย Connecting Dots
14 ธันวาคม 2016
ที่มารูป: f.ptcdn.info
สนุกมากกก ดูแล้วคิดถึง Love Actually มันได้กลิ่นอายบรรยากาศแบบนั้น เทศกาลส่งท้ายปี ความสนุก ความรัก ความชุลมุน เรื่องราวของคนหลายๆ คน หลายๆ คู่ เหมือนจะเป็นเรื่องของใครของมัน แต่ก็มีจุดที่ผูก ที่แตะกันไว้นิดๆ และครบทุกรสชาติ สุข ทุกข์ หัวเราะ น้ำตา รอยยิ้ม เต็มอิ่มแบบไม่ต้องพึ่งป๊อบคอร์น
หนังเรื่องพรจากฟ้า จะมีสามส่วน ตามเพลงพระราชนิพนธ์
ยามเย็น (น้องนาย กับ น้องวี) มันน่ารัก มันโรแมนติก มันกุ๊กกิ๊ก ดูไปยิ้มไป พอรู้สึกตัว เฮ้ย ยิ้มกว้างเป็นจูเลีย โรเบิร์ตเลยนะเรา คือยิ้มกว้างกว่านางเอกอีก ตอนดูก็คิดนะว่า คนคิดเรื่องเค้าเก่งที่คิดสถานการณ์และฉากโรแมนติกใหม่ๆ ได้ และทำออกมาได้น่ารักและน่าจดจำ เป็นเราคงหมดมุก นึกได้แค่หลงป่า เข้ากระท่อม ดูดาว ฟ้าผ่า ฝนตกไรงี้ ส่วนนักแสดงน้องวี ก็น่ารัก เสียงเพราะ ส่วนน้องนาย หน้าหล่อ เสียงเท่ห์ น่ามอง มีเสน่ห์ เล่นได้ธรรมชาติ แจกความสดใส และมีความกตัญญูกับแม่หมู พิมพ์ผกา (เกี่ยวมั้ย) มากๆ
Still on my Mind (ซันนี่ กับ มิว) อันนี้ออกแนวดรามา ซึ้ง ถึงแม้ไม่หดหู่เกินไป เพราะมันก็มีความฮา(จากซันนี่) หยอดใส่อยู่ แต่ก็เล่นเอาน้ำตาไหลไปหลายสาย ชอบตอนที่พระเอกบอกว่า ผมรู้ว่าคุณต้องเจอกับอะไรบ้าง อือ คนดูแลคนอัลไซเมอร์มันหนักจริงๆ และอีกอย่างคือ พ่อของมิวในเรื่อง แสดงได้น่าทึ่งมาก เพราะเล่นได้เป็นธรรมชาติแบบสุดยอดธรรมชาติ เข้าขั้นออร์แกนิก เหมือนไม่ได้แสดงอยู่อ่ะ เก่งมากจริงๆ
พรปีใหม่ (เต๋อ กับ หนูนา) เรื่องนี้เป็นแนวตลก ฮา พลอตง่ายๆ ธรรมดา มีความเชยหน่อยๆ ไม่สมจริง ก็ comedy อ่ะเนอะ แต่สิ่งที่โดดเด่นโดนใจ คือบรรยากาศของเรื่องที่ทำออกมา เถิดเทิง ครึกครื้น สนุกสนานมากกกกกก จังหวะจะโคนทุกอย่างมันได้ ยิ่งตอนช่วงเพลงนี่ คือดูแล้วโยกไหล่ตามแบบไม่รู้ตัวอีกละ พอรู้ตัว อ้าว ไหล่ตรูโยกอยู่ ชอบพนักงานออฟฟิศเล่นดนตรีทุกคน เป็นภาพคอนทราสต์ที่ฮา มีความเบิกบานใจมากเมื่อได้รับชม
สิ่งหนึ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้ คือ การเชื่อมต่อจากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่ง ทำได้ไหลลื่น ทั้งๆ ที่แต่ละเรื่องก็มีโทนอารมณ์ที่แตกต่างกัน
ส่วนสิ่งที่ติดนิดๆ สำหรับเรา คือ เหมือนบทพูดบางบท มันดูจงใจ ปั้นคำ ยัดเยียดคำพูดที่ไม่ค่อยธรรมชาติไปหน่อย แต่ก็มองข้ามไปได้ เมื่อเทียบกับความรู้สึกเต็มอิ่มที่ได้จากหนังเรื่องนี้
ส่วนแง่คิดที่ได้จากเรื่อง จริงๆ แต่ละเรื่องก็มีข้อคิดของมันอยู่ แต่สำหรับเรา อารมณ์ครบรสที่ได้จากหนังเรื่องนี้ มันกลบทุกอย่าง เลยเป็นหนังที่เหมาะกับช่วงเทศกาลมากๆ เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความรู้สึก ช่วงเวลาแห่งการซึมซับบรรยากาศ และช่วงเวลาของการเบิกบานใจ แต่ปีนี้พิเศษหน่อย คือ เป็นช่วงเวลาแห่งความคิดถึงด้วย เมื่อได้ยินเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ก็อดคิดถึงพระองค์ท่านไม่ได้ ทุกบทเพลงไพเราะจริงๆ ทรงมีพระอัจฉริยภาพมากๆ และถือเป็นของขวัญแห่งความรื่นรมย์ที่พระองค์ท่านได้ทิ้งให้กับลูกทุกคนในประเทศ
สรุป ดูแล้ว Feel Good สมเป็น GDH ความสุขมวลรวมกระฉูดมาก ไม่รู้กล้องวงจรปิดโรงหนังมีถ่ายเห็นวัตถุทรงกลมเดินโยกไหล่ ดุ๊กดิ๊ก ฮัมเพลงออกมาจากโรงรึเปล่า
