โดย Average Joe
20 December 2013
จะมีหนังสักกี่เรื่องที่เราดูแล้วพูดได้อย่างเต็มปากว่า “นี่มันชีวิตกูชัดๆ”
ณ ขณะนี้ หนังเรื่องนั้นสำหรับข้าพเจ้าคือ 500 Days of Summer (แต่ของเราน่าจะเกินห้าร้อยวันแล้วนะ)
ที่มารูป: https://upload.wikimedia.org
หนังเกี่ยวกับอะไร?
หนังเล่าเรื่องของทอม ชายหนุ่มที่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต โชคชะตา รักแท้ และเนื้อคู่ กับ ซัมเมอร์ หญิงสาวผู้ไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต โชคชะตา รักแท้ และเนื้อคู่ (เท่านี้คงพอเดาตอนจบได้นะ) ทอมหลงรักซัมเมอร์ ทั้งสองคบหากัน แต่อยู่มาวันหนึ่ง ซัมเมอร์ก็บอกเลิกกับทอมแบบไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว
คงจะไม่เขียนวิเคราะห์อะไรมาก เนื่องจากจิตแพทย์นักเขียนเจ้าของนามปากกา “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ดีแล้วในหนังสือ “เจ็บเพราะรัก” (4-letter word, 2553) หน้า 41-51 หัวข้อ “ความร้ายกาจของความทรงจำ” หากสนใจก็ลองไปหาอ่านกันได้ครับ
…
…
…
แต่เดี๋ยวจะโดนด่าว่าขี้เกียจเกิน งั้นรีวิวให้นิดนึงแล้วกัน เอาเป็นว่าบทหนังเขียนดีมาก ทำให้เราได้เห็นขั้นตอนและความสัมพันธ์ของความรัก การคบหา ความคาดหวัง ที่นำมาสู่ความผิดหวัง การเลิกรา การอกหัก และการทำใจ Joseph Gordon-Levitt (หรือ JGL) ก็แสดงได้ดีมากในบทชายที่เชื่อมั่นในความรักเหนือสิ่งอื่นใด ทว่าเมื่อความรักที่แสนยิ่งใหญ่ของเขาพังทลายลง หมายถึงชีวิตของเขาต้องพังตามไปด้วยหรือไม่
จากสิ่งที่ได้ประสบและเรียนรู้มาด้วยตัวเอง ข้าพเจ้าได้รู้ว่า ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผล แต่เป็นเรื่องความรู้สึกล้วนๆ จะรักหรือไม่รักก็อยู่ที่ความรู้สึก หากต้องเผชิญกับการเลิกรา ก็อย่าไปพยายามหาคำตอบที่ชัดเจนใดๆ เพราะถึงได้คำตอบมา เราก็จะไปนั่งสงสัยต่ออยู่ดีว่ามันเป็นความจริงสักกี่เปอร์เซ็นต์กันแน่ และในความเป็นจริง มันไม่เคยมีคำตอบใดที่ถูกใจเราที่สุดหรอก
ขอขอบคุณ Tom Hansen/JGL ที่ทำให้รู้ว่า ไม่ใช่เราคนเดียวที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ขอบคุณจริงๆ
และท้ายสุดนี้ ข้าพเจ้าขอยกให้ 500 Days of Summer เป็นหนังเกี่ยวกับการอกหักที่ดีที่สุดตลอดกาล เหมาะที่จะแนะนำให้เป็น therapeutic film สำหรับคนอกหักทุกคน
8.5/10 ครับ
(10/10 ถ้าเพิ่งอกหักมา)
