ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 187; ดู Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ‘สัตว์มหัศจรรย์’ นั้นเป็นใคร!!??
เมื่อตอนที่ Chocolate Box ญาติสนิทของเบี้ยน้อยฯ ในเว็บ siamreview.com ลงรีวิวหนังเรื่องนี้ เจ้าของคอลัมน์ได้ส่งข้อความมาถามดิฉันว่า ได้ไปดูหนังหรือยัง พี่เขียนรีวิวแล้วนะ ช่วงนั้นดิฉันก็ยุ่งๆ อยู่ ยังหาช่องหารูไปดูไม่ได้ พอหลังจากนั้น 3 วัน มีเหตุให้ได้โทร. คุยกันเรื่องงาน คุณพี่แกก็ถามอีก แถมด้วยคำโปรยที่ทำให้ดิฉันแทบจะหนีงานไปดูซะเดี๋ยวนั้น คือ “พอดีพี่เห็นว่า ลูกชายเธอเป็นตัวหลักไง ก็เลยอยากให้ไปดู” นี่ได้ผลยิ่งกว่าเอาดอกไม้แดงมาล่อเจ้าเงาะ วันรุ่งขึ้นหลังจากเสร็จภารกิจ ดิฉันจึงเด้งตัวขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ แว้นไปยังโรงหนังใกล้บ้านทันที
Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald หรือชื่อไทย “สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์” เป็นหนังภาคที่ 2 ในจำนวน 5 ภาค ซึ่งมี นิวตัน (หรือ นิวต์) สคามันเดอร์ (แสดงโดย เอ็ดดี้ เรดเมย์น) นักสัตว์วิเศษวิทยา ผู้แต่งหนังสือ “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” ในหนังชุด Harry Potter รับหน้าที่ตัวละครเอก เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นภาค 2 ดิฉันก็จะต้องเล่าเท้าความถึงภาคแรกก่อน ตามสไตล์เบี้ยน้อยฯ แต่ก่อนอื่นขอความกรุณาทุกท่านกดลิงค์เข้าไปอ่านเบี้ยน้อยฯ 081; Fantastic Beasts and Where to Find Them ตามด้วยรีวิว Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ของ Chocolate Box แล้วค่อยกลับมาอ่านเบี้ยน้อยฯ 187 นี้ ท่านจะได้รับอรรถรสและความ “บันเทิงแกล้มสาระ สาระแกล้มบันเทิง” อย่างเต็มเปี่ยมค่ะ
…
ในหนังภาคแรก นิวต์ทำกระเป๋าสลับกับหนุ่มโนแมจชาวนิวยอร์ก ชื่อ เจค็อบ โควัลสกี้ (แสดงโดย แดน ฟ็อกเลอร์) เนื่องจากนิฟเฟลอร์ สัตว์วิเศษละม้ายตุ่นปากเป็ดซึ่งชอบวัตถุแวววาว หลุดออกจากกระเป๋าของเขา วิ่งเข้าไปในธนาคาร เจค็อบอยู่ในธนาคาร กำลังยื่นขอสินเชื่อ เมื่อนิวต์เข้าไปตามหานิฟเฟลอร์ และลงเอยด้วยการใช้เวทมนตร์หลายอย่างต่อหน้าต่อตาเจค็อบเพื่อจะจับนิฟเฟลอร์ให้ได้ เจค็อบก็ตื่นตระหนกตกใจมาก คว้ากระเป๋าได้ก็โกยอ้าว พอกลับบ้านไปเปิดกระเป๋า ก็ช็อกซีนีม่าอย่างสมบูรณ์ เพราะสัตว์วิเศษหลากหลายสายพันธุ์ต่างกระจุยกระจายกันออกมา แล้วกระเจิดกระเจิงกันไปคนละทิศคนละทาง
ฝ่ายนิวต์ เมื่อใช้เวทมนตร์อย่างโจ๋งครึ่มเช่นนั้น แถมยังนำสัตว์วิเศษเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ก็เลยถูกจับโดยแม่มดสาว พอร์เพนทีน่า (หรือ ทีน่า) โกลด์สตีน (แสดงโดย แคเทอรีน วอเตอร์สตัน) มือปราบมารประจำสภาผู้วิเศษแห่งอเมริกา (มาคูซา) แต่แท้ที่จริง ทีน่าถูกปลดจากตำแหน่งไปแล้ว เพราะเธอเคยใช้เวทมนตร์ช่วยเหลือเด็กหนุ่มคนหนึ่งจากการถูกแม่บุญธรรมเฆี่ยนตี เด็กคนนั้นมีชื่อว่า ครีเดนซ์ แบร์โบน (แสดงโดย เอซร่า มิลเลอร์ ลูกชายเดี๊ยนเองข่าาาาา) เป็นเด็กกำพร้าซึ่งนางแมรี่ ลู แบร์โบน แกนนำ “ชาวซาเล็มที่ 2” เก็บมาเลี้ยง นางแบร์โบนผู้นี้มักจะก่อม็อบตามที่ต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้โนแมจล้างบางพ่อมดแม่มด ทีน่าก็เลยติดตามดูนางเพื่อเฝ้าระวัง แม้หลังจากโดนปลดแล้วเธอก็ยังตามอยู่ เผื่อเกิดจลาจลอะไรจะได้แก้ไขทัน อาจได้สร้างผลงานเพื่อเอาตำแหน่งกลับคืนมาด้วย
ทีน่าจับกุมนิวต์ไปที่มาคูซา แต่เซราฟีน่า พิกเคอรี่ ประธานสาวแห่งมาคูซา กลับไม่สนใจผลงานของเธอ เพราะกำลังประชุมเครียดเรื่องกลุ่มควันประหลาดสีดำซึ่งปรากฏขึ้นกลางเมือง มีเพียงคนเดียวที่สนใจ คือ เพอร์ซิวัล เกรฟส์ หัวหน้ามือปราบมาร (แสดงโดย โคลิน ฟาร์เรลล์) ซึ่งขอให้นิวต์เปิดกระเป๋าให้ตรวจ นิวต์จึงได้รู้ในตอนนั้นว่ากระเป๋าของเขาสลับกับเจค็อบ เขารีบไปที่บ้านเจค็อบ โดยมีทีน่าตามไปติดๆ พบเจค็อบนอนพะงาบๆ เพราะโดนพิษสัตว์วิเศษตัวหนึ่ง ทีน่าจึงให้นิวต์พาเจค็อบไปที่บ้านของเธอเพื่อหาทางรักษา เจค็อบจึงได้พบกับ ควีนนี่ (แสดงโดย แอลิสัน ซูดอล) น้องสาวของทีน่า ผู้มีความสามารถพิเศษอ่านใจคนได้ แล้วทั้งสองก็ตกหลุมรักกัน
เมื่อเจค็อบหายดี ก็โดนนิวต์ลากไปช่วยตามหาสัตว์วิเศษที่หลุดหายไป แต่ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุร้ายกลางเมืองนิวยอร์ก เพราะควันสีดำลึกลับได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และสังหาร สว. ตาย นิวต์จึงถูกมาคูซาสอบสวน เพราะเขาเป็นผู้ต้องสงสัยข้อหานำสัตว์วิเศษเข้าเมืองอยู่ เมื่อนิวต์ได้ดูศพ สว. ก็รู้ทันทีว่าตายด้วยพลังเวทย์ด้านมืดที่เรียกว่า “อ็อบส์คิวรัส” พลังมืดนี้จะเติบโตขึ้นในตัวพ่อมดแม่มดเด็ก ซึ่งถูกครอบครัวหรือสังคมกดดันให้พวกเขาเกลียดกลัวพลังเวทย์ของตัวเอง และเก็บกดพลังไว้ไม่แสดงออก พลังเวทย์ที่ถูกเก็บกดก็เลยสะสมเป็นพลังมืด อันเกิดจากความเจ็บปวดโกรธเกรี้ยวที่ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ในที่สุดพลังมืดก็มีอำนาจเกินกว่าเจ้าของพลังจะควบคุม ทำให้เด็กๆ เหล่านั้นต้องตายไปตั้งแต่อายุยังน้อย พ่อมดแม่มดที่มีพลังอ็อบส์คิวรัสในตัวเช่นนี้ เรียกว่า “อ็อบส์คิวเรียล” ในช่วงเวลาที่อ็อบส์คิวเรียลไม่สามารถควบคุมความโกรธเกรี้ยวได้ พลังอ็อบส์คิวรัสจะระเบิดออกมา เปลี่ยนร่างพวกเขาให้กลายเป็นกลุ่มควันสีดำซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล
เพอร์ซิวัล เกรฟส์ พบหลักฐานคาหนังคาเขาว่านิวต์มีอ็อบส์คิวรัสอยู่ในครอบครอง มิไยนิวต์จะบอกว่าเขาสกัดมันออกมาจากอ็อบส์คิวเรียลเด็กหญิงซึ่งตายตั้งแต่อายุ 8 ขวบที่ซูดาน เพื่อนำมาศึกษาวิจัย โดยที่มันไม่เคยหลุดออกจากกระเป๋าเขาเลยตั้งแต่มาถึงนิวยอร์ก แต่เกรฟส์ก็ตัดสินประหารชีวิตนิวต์และทีน่า ในขณะที่เจค็อบถูกขังคุก ทั้งสามรอดคุกรอดตายมาได้ด้วยการช่วยเหลือของควีนนี่ พร้อมทั้งสัตว์วิเศษต่างๆ ในกระเป๋าของนิวต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าพิกเก็ต สัตว์วิเศษรูปร่างเหมือนกิ่งไม้สีเขียวเล็กๆ ชอบอยู่ในกระเป๋าเสื้อของนิวต์ และมีความสามารถสะเดาะกุญแจทุกรูปแบบ
แต่แล้วเหตุร้ายก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่ออ็อบส์คิวรัสได้ปรากฏขึ้นและฆ่านางแบร์โบนตาย เกรฟส์รีบรุดไปที่บ้านแบร์โบน ซึ่งมีเด็กๆ ลูกบุญธรรมของนางแบร์โบนอยู่ด้วยกันเพียง 3 คน เกรฟส์เชื่อว่าน้องสาวคนเล็กของบ้านนี้เป็นอ็อบส์คิวเรียล จึงข่มขู่ครีเดนซ์ให้บอกที่ซ่อนของน้องสาว ทันใดนั้นครีเดนซ์ก็กลายร่างเป็นกลุ่มควันสีดำ พุ่งออกไปทำลายล้างเมืองนิวยอร์กอย่างบ้าคลั่ง มือปราบมารต่างรีบรุดมาสังคายนา โนแมจต่างมาเป็นฝรั่งมุงโดยถ้วนหน้า นิวต์กับทีน่าพยายามกล่อมครีเดนซ์ให้สงบ แต่นางพิกเคอรี่ ประธานมาคูซา กลับสั่งบรรดามือปราบให้รุมสังหารครีเดนซ์ จนกลุ่มควันอ็อบส์คิวรัสระเบิดเป็นจุณ
เกรฟส์เห็นจุดจบของอ็อบส์คิวรัสเช่นนั้น ก็ผรุสวาทประมาณว่า ชุมชนผู้วิเศษก็จงหลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี้ต่อไปเถิด พิกเคอรี่รู้สึกผิดสังเกต จึงสั่งมือปราบมารจับกุมเกรฟส์ แต่เกรฟส์สามารถต่อต้านการจับกุมได้อย่างเหนือชั้น นิวต์จึงใช้สัตว์วิเศษช่วย แล้วร่ายคาถาเปิดเผยสิ่งที่เกรฟส์ซ่อนเร้นอยู่ ร่างจริงของเกรฟส์จึงปรากฏแก่ตาสาธารณชน ว่าเขาก็คือ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (แสดงโดย จอห์นนี่ เดปป์) พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่สายศาสตร์มืด ซึ่งแฝงตัวเข้ามาในมาคูซา เพื่อใช้อำนาจหน้าที่ให้เป็นประโยชน์ในการตามหาอ็อบส์คิวเรียล จะได้ใช้พลังอ็อบส์คิวรัสสร้างโลกที่ผู้วิเศษเป็นใหญ่ กรินเดลวัลด์ถูกจับกุมตัวทันที ส่วนฝรั่งมุงก็ถูกลบความทรงจำ ควีนนี่จูบลาเจค็อบก่อนที่เขาจะลืมทุกอย่าง ส่วนทีน่าก็ไปส่งนิวต์เดินทางกลับอังกฤษ โดยที่ทั้งสองต่างขัดเขิน จึงยังไม่ได้เปิดเผยความในใจต่อกัน
ที่มาภาพ: imdb.com
ตอนจบภาคแรก มีสัญญาณบ่งบอกว่าครีเดนซ์ยังไม่ตาย ซึ่งก็ไม่ตายจริงๆ เพราะจะตายง่ายๆ ก็กระไรอยู่ เป็นอ็อบส์คิวเรียลตัวกลั่นขนาดนั้นยังอยู่มาได้จนโตเป็นหนุ่ม แสดงว่ามีพลังอำนาจสูงมาก จึงนำมาสู่เรื่องราวในภาค 2 ซึ่งครีเดนซ์ผู้ทุกข์ทนพยายามตามหาชาติกำเนิดของตัวเอง โดยกรินเดลวัลด์ผู้หนีคุกออกมา ก็ตามหาครีเดนซ์เพื่อชักจูงมาเข้าพรรค เอ๊ย! เข้าพวก ฝ่ายอัลบัส ดัมเบิลดอร์ (แสดงโดย จู๊ด ลอว์) ศาสตราจารย์ผู้เป็นที่รักของหมู่เฮาชาวฮอกวอตส์ จะไฝว้กับกรินเดลวัลด์โดยตรงก็ไม่ได้ เพราะมีความรักความหลังกันอยู่ จึงให้นิวต์ศิษย์รักออกหน้า ไปตามหาครีเดนซ์เพื่อช่วยเหลือให้พ้นเงื้อมมือกรินเดลวัลด์ ในขณะเดียวกัน กระทรวงเวทมนตร์แห่งอังกฤษ ก็ตามล่ากรินเดลวัลด์อาชญากรตัวเอ้ โดยมีมือปราบมาร ธีเซียส สคามันเดอร์ (แสดงโดย แคลลัม เทอร์เนอร์) พี่ชายผู้ไม่ค่อยลงรอยกันของนิวต์ เป็นผู้นำทีม ส่วนสภามาคูซาแห่งอเมริกา ก็ตามล่ากรินเดลวัลด์เช่นเดียวกัน แต่ทีน่าผู้ได้กลับมารับตำแหน่งมือปราบมาร ก็แอบตามหาครีเดนซ์ไปด้วย เพื่อช่วยเขาให้พ้นจากเงื้อมมือผู้ไม่หวังดีทั้งปวง
ดิฉันนั่งดูหนังเรื่องนี้โดยมีน้ำตาไหลออกมาเป็นระยะๆ ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หนังชุดโลกเวทมนตร์ของป้า เจ.เค.โรว์ลิง จะทำให้ดิฉันร้องไห้ ตั้งแต่ดูมาก็ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ร้อง ดิฉันรักหนังชุดแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ และรวมถึงชุดสัตว์มหัศจรรย์นี้ เพราะมันบอกกับเราว่า เด็กแต่ละคนมีความพิเศษในตัวเอง แต่ทุกคนต่างก็เกิดมาในโลกที่โหดร้าย ต้องพบเจอกับความเลวร้าย ซึ่งจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกขวบปีที่พวกเขาเติบโตขึ้น สิ่งสำคัญที่จะนิยามตัวตนของพวกเขา ก็คือเขาเลือกที่จะเป็นอะไร เลือกที่จะทำอะไร เลือกที่จะเดินไปในเส้นทางไหน ซึ่งมันก็จะนิยามความเป็นไปของโลกด้วย เพราะเด็กก็คืออนาคตของโลกเรา
เป็นเรื่องยากมากที่ดิฉันจะเกลียดใครในหนังชุดโลกเวทมนตร์ของป้า เจ.เค. เพราะแต่ละคนต่างก็มีอดีตอันเจ็บปวด ซึ่งทำให้พวกเขาเลือกเส้นทางที่ต่างออกไปโดยไม่มีใครคิดคาดถึง อย่างเรื่อง The Crimes of Grindelwald นี้ ในช่วงต้นๆ ดิฉันรำคาญนังลีต้า เลสแตรงจ์ (แสดงโดย โซอี้ คราวิตซ์) ผู้เป็นอดีตรักวัยรุ่นของนิวต์มาก แต่พอรู้เรื่องราวของนาง ก็ถึงกับอุทานในใจว่า “ฮานี้บ่าเฮ้ยยยย” แล้วความรู้สึกที่มีต่อนางก็เปลี่ยนไป อีกคนคือนังนากินี (แสดงโดย คลอเดีย คิม นักแสดงสาวชาวเกาหลี) ผู้จัดได้ว่าเป็น ‘สัตว์มหัศจรรย์’ อีกตัว นางทำให้ดิฉันเจ็บแค้นเคืองโกรธมาตั้งแต่หนังชุดแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ เพราะนางคือผู้ที่ฆ่าศาสตราจารย์สเนปที่รักของดิฉัน แต่พอได้รู้ชาติกำเนิดของนาง ว่าเกิดมาเป็นมาเลดิกตัส ถูกสาปโดยสายเลือดให้กลายร่างเป็นสัตว์ แล้วเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะกลายเป็นสัตว์ตลอดชีวิต คืนร่างคนไม่ได้อีกต่อไป ดิฉันก็รู้สึกเวทนานางเหลือเกิน
ดิฉันเพิ่งทราบจากการอ่านรีวิวของ Chocolate Box ว่าหนังเรื่องนี้โดนด่าว่า “หากินกับของเก่า” ที่จริงดิฉันว่ามันก็เป็นสไตล์ของป้า เจ.เค. อยู่แล้ว ที่จะโปรยอะไรไว้แล้วหยิบมาเล่นทั้งในเรื่องเดียวกันและเรื่องต่อๆ ไป แต่ป้าก็ไม่ได้เอามาเล่นอย่างไก่กา เพราะเล่นแล้วมันมีความหมายต่อเรื่องมากทีเดียว อย่างเช่น กระจกเงาแห่งเอริเซด ซึ่งส่องให้เห็นแต่สิ่งที่เราอยากเห็น เมื่อตอนแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ส่องกระจกนี้ในหนังภาคแรกของชุดแฮร์รี่ ดิฉันน้ำตาไหลเป็นเผาเต่า มาถึงเรื่องนี้ พอดัมเบิลดอร์ส่อง ดิฉันก็แทบตายคาเก้าอี้เอาจริงๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะการแสดงของคุณพี่ จู๊ด ลอว์ ด้วย แกเป็นคนที่ยิ่งแก่ยิ่งมีบารมี การรับบทดัมเบิลดอร์อันเป็น ‘ของเก่า’ อย่างหนึ่งของหนังชุดนี้ ดิฉันว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนดูส่วนใหญ่รู้จักดัมเบิลดอร์ตอนแก่จนถึงตอนตายดีอยู่แล้ว ถ้าดัมเบิลดอร์ตอนหนุ่มมาทำให้ภาพนั้นพังไป หนังทั้งเรื่องก็พัง แต่ปรากฏว่า การแสดงของจู๊ด ลอว์ เหมือนชะลอองค์ดัมเบิลดอร์มาไม่มีผิด ในหนังชุดแฮร์รี่ภาคนึง จำไม่ได้ว่าภาคไหน มีเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์พูดถึงดัมเบิลดอร์ว่า “คุณจะชอบเขาหรือไม่ก็ตามเถอะ แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเขาเป็นคนมีสไตล์” แล้วจู๊ด ลอว์ ก็ถ่ายทอด ‘สไตล์’ นั้นออกมาได้อย่างมีสไตล์ ทำให้เห็นได้ว่า ของเก่า ถ้าเรารู้จักเอามาทำอะไรให้งอกเงยขึ้นมา มันก็คือขุมทรัพย์ดีๆ นี่เอง
ด้วยเหตุนี้ ดิฉันจึงไม่กังวลว่าในหนังภาคต่อๆ ไป ชื่อเรื่องหลักอย่าง Fantastic Beasts ยังควรจะมีอยู่หรือเปล่า เพราะไม่ว่าหนังจะเปิดตัวสัตว์มหัศจรรย์ใหม่ๆ หรือไม่ก็ตาม (ซึ่งดิฉันว่ามีแน่นอน) ก็ยังมีสัตว์มหัศจรรย์เก่าๆ ให้นำมาต่อยอดได้อีกเยอะ ที่สำคัญ ดังที่ดิฉันได้กล่าวไว้เมื่อตอนที่เขียนถึงหนังภาคแรกว่า ป้า เจ.เค. ได้ขยายความหมายของ Fantastic Beasts ออกไปมาก ดังนั้น “สัตว์มหัศจรรย์” อันจะมีบทบาทสำคัญต่อไป ไม่ว่าจะ ‘คือ’ ใคร ก็อลังการแน่นอน แค่ประเด็นที่ว่าเขา ‘เป็น’ ใคร ก็กระชากใจเกินทนแล้ว
สรุป: จ่าย 240 ได้กลับมา 277
โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
7 ธันวาคม 2561
(ขอบคุณภาพปกจาก imdb.com)
