ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 044; ไปสกาลา ดู Ant-Man มนุษย์มดมหากาฬ (ชอบชื่อไทย อิๆๆ)
ที่มารูป: collider.com
หนังปิดเฟส 2 ของจักรวาลมาร์เวลเพื่อนำเข้าสู่เฟส 3 นี้ เปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากนวัตกรรมของนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ดร. แฮงค์ พิม (แสดงโดย ไมเคิล ดักลาส) ดร. พิมเคยสังกัดหน่วยชีลด์ และได้ค้นพบอนุภาคชนิดหนึ่งที่สามารถย่อและขยายขนาดของสิ่งต่างๆ ได้ ตั้งชื่อว่า อนุภาคพิม (Pym Particles) เขาใช้อนุภาคพิมในการประดิษฐ์ชุด Ant-Man เพื่อย่อขนาดร่างกายของคนที่ใส่ชุดนี้ให้เล็กเท่ามดแต่ยังมีพละกำลังเท่าเดิม โดยคนแรกที่ได้สวมชุดนี้ออกปฏิบัติการก็คือตัวเขาเอง ดังนั้น ดร. พิมจึงเป็นแอนท์แมนคนแรก แต่หลังจากนั้นก็มีเหตุให้เขาตัดสินใจลาออกจากหน่วยชีลด์ แล้วมาตั้งบริษัทวิจัยและพัฒนาทางชีวเคมี ชื่อ Pym Technology โดยมีศิษย์เอกนามว่า ดร.แดร์เรน ครอส เป็นผู้ช่วย แต่เจ้ากรรมอี ดร. ครอส ดันเป็นลูกศิษย์คิดล้างครู พยายามคิดค้นวิธีย่อและขยายวัตถุ แล้วก็ทำได้สำเร็จ สามารถประดิษฐ์ชุด Yellowjacket ย่อคนที่ใส่ให้ตัวเล็กเท่าแมลง แล้วกะจะขายเป็นอาวุธสงคราม ดร. พิมจึงต้องหาคนมาคายตะขาบสืบทอดการเป็นแอนท์แมน เพื่อเข้าไปขโมยเยลโลว์แจ็กเก็ตไม่ให้ตกอยู่ในมือคนชั่ว และคนที่ได้รับเลือกก็คือ สก็อตต์ แลง (แสดงโดย พอล รัดด์) อดีตวิศวกรไฟฟ้าบริษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งถูกไล่ออกเพราะดันไปรู้ความลับว่าบริษัทโกงเงินลูกค้า เขาจึงแฮ็กระบบรักษาความปลอดภัยแล้วเข้าไปขโมยเงินที่บริษัทโกงมาทั้งหมด แต่ถูกจับได้ เลยเข้าคุก 3 ปี เพิ่งออกมาหมาดๆ
สิ่งหนึ่งที่ดิฉันรู้สึกชื่นชมหนังในจักรวาลมาร์เวล คือการคัดเลือกนักแสดง โดยเฉพาะผู้รับบทนำในแต่ละเรื่อง สังเกตได้ว่า ก่อนจะมาแสดงเป็นซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลนั้น แต่ละคนยังไม่ได้เป็นพระเอกแถวหน้าของวงการ ตัวอย่างเช่น โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้รับบทไอร์ออนแมน หลังจากคัมแบ็กจากการติดยาและโดนจับข้อหามียาเสพติดในครอบครอง งานแกก็ไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างเหมือนตอนหนุ่มๆ เท่าไหร่ คริส อีแวนส์ ผู้รับบทกัปตันอเมริกา ก็ดังอยู่แวบเดียวตอนเล่น Fantastic Four หลังจากนั้นก็ไม่มีหนังเรื่องใดโดดเด่น คริส เฮมส์เวิร์ธ ผู้รับบทธอร์ ก่อนหน้านั้นเล่นหนังมาแค่สามสี่เรื่อง แทบไม่เป็นที่รู้จัก ส่วนคริส แพรตต์ ผู้รับบทปีเตอร์ ควิลล์ หรือสตาร์ลอร์ด แห่ง Guardians of the Galaxy ก็เล่นเป็นตัวประกอบมาตลอด แต่ฝ่ายแคสติ้งของมาร์เวลก็ช่างมีดวงตาแหลมคม เลือกนักแสดงที่เชื่อมั่นว่าจะถ่ายทอดบทบาทของตัวละครได้จริง ไม่ได้เลือกที่ความดังหรือชื่อเสียง (ในแง่หนึ่ง ก็ช่วยประหยัดค่าตัวด้วย 555) และเมื่อเป็นคนที่ ‘ใช่’ พอได้บทดี โปรดักชันดี ก็ติดลมบนไปทั้งหนังทั้งตัวนักแสดง ดังจะเห็นได้ว่า นักแสดงแต่ละคนที่กล่าวมา บัดนี้ก็ได้กลายเป็นพระเอกสุดฮ็อต ซึ่งโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และการแสดงที่สมบทบาท ในเรื่อง Ant-Man ก็เช่นเดียวกัน หนังเลือก พอล รัดด์ พระเอกที่เด็กสมัยนี้และคนที่ดูแต่หนังบล็อกบัสเตอร์คงจะอุทานว่า “เมิงเป็นใครหรือ” หากเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า “เอาอยู่” สามารถสร้างสรรค์บทบาทแอนท์แมนได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่แพ้ซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ในแฟรนไชส์ ชวนให้คิดว่าพอเข้าเฟส 3 ซึ่งแอนท์แมนเข้าไปร่วมทีม Avengers แล้ว คงจะสนุกสนานน่าดูชม
ว่ากันเฉพาะหนังเรื่องนี้ สิ่งหนึ่งที่ดิฉันชอบมากคือฉากปฏิบัติการ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันเนื่องมาจากความพิเศษของชุดแอนท์แมน กล่าวคือ ชุดนี้สามารถย่อและขยายขนาดได้อย่างฉับพลันเพียงกดปุ่ม ทำให้ได้เปรียบมากในการต่อสู้แบบประชิดตัว เพราะร่างนางก็จะเดี๋ยวเล็กเดี๋ยวใหญ่จนคู่ต่อสู้มึน การออกแบบการต่อสู้จึงต้องแตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ทั้งต้องอาศัยการถ่ายภาพและตัดต่อระดับมือโปรด้วย อีกประการหนึ่ง ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป ฉากปฏิบัติการมักจะมีการถล่มเมือง ซึ่งเราจะเห็นภาพเป็นสเกลใหญ่ๆ แต่ในเรื่องนี้ เนื่องจากซูเปอร์ฮีโร่ตัวเท่ามด ปฏิบัติการของนางจึงเป็นการลักลอบเข้าไปทำลายระบบรักษาความปลอดภัยถึงแกนของระบบเพื่อจะฉกเยลโลว์แจ็กเก็ตออกมา ก็เลยเป็นครั้งแรกที่เราได้ดูปฏิบัติการในพื้นที่เล็กจิ๋ว ซึ่งทุกอย่างดูใหญ่ไปหมดเมื่อเทียบกับขนาดตัวของผู้ปฏิบัติการ นอกจากนี้ แอนท์แมนยังสามารถสื่อสารกับมดได้ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผสมโทรจิต ดังนั้นนางจึงมีมดทุกสายพันธุ์เป็นกำลังเสริม มีมดบินเป็นสัตว์พาหนะ เวลาออกปฏิบัติการก็ไปกันเป็นกองทัพ ดูแล้วฮึกเหิมกว่าดูพระเอกเลี้ยงแร็พเตอร์ใน Jurassic World เยอะเลย (แฟนแร็พเตอร์อย่าตบเดี๊ยนนะ 555)
จริงๆ ดิฉันเป็นคนแพ้มด ถ้าโดนมดกัดผิวหนังจะบวมเป่งและเจ็บปวดมาก เวลาเห็นมดเดินเป็นสาย มะรุมมะตุ้ม หรือเกาะกันเป็นแพ จะขนลุกขนพองด้วยความแสยง (สยดสยอง + ขยะแขยง) ทุกครั้ง ในฉากแรกๆ ที่เห็นนี่ ระทึกมาก ขนลุกซู่ทั่วสรรพางค์กาย แต่พอดูๆ ไป เฮ้ย! ทำไมรู้สึกกลัวน้อยลง จนสุดท้าย ดูจบ รู้สึกว่ามดที่อยู่รวมกันเป็นหมู่มวลไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว หนังสามารถรักษาอาการโรคจิตของดิฉันได้!! ปาฏิหาริย์ Ant-Man!!
สรุป: จ่าย 100 ได้กลับมา 135
โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
6 สิงหาคม 2558
(ขอบคุณภาพปกจาก aceshowbiz.com)
