ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 177; ดู Ant-Man and the Wasp มนุษย์มดกับมนุษย์มดตะนอย #น่ารัก
หนังภาค 2 ของ Ant-Man เรื่องนี้ แม้จะเป็นเรื่องที่ 20 ของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ต่อเนื่องจาก Avengers: Infinity War อันเป็นเรื่องที่ 19 เพราะเรื่องราวใน Ant-Man and the Wasp เกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดศึกชิงอินฟินิตี้สโตน (อ่านได้ในเบี้ยน้อยหอยน้อย 170) ดังนั้นจึงเท่ากับเราต้องย้อนอดีตกันเล็กน้อย กลับไปในสมัยที่บ้านเมืองยังดี ก่อนที่จะมีสงครามใหญ่อันทำให้สิ่งมีชีวิตครึ่งจักรวาลร่างสลายกลายเป็นผุยผง รวมทั้งซูเปอร์ฮีโร่จำนวนครึ่งหนึ่ง อันประกอบด้วย (ในวงเล็บคือชื่อนามสกุลจริงในเรื่อง) ดร.สเตนจ์ (ดร.สตีเฟน สเตรนจ์) บัคกี้ (เจมส์ บูเคแนน บาร์นส์) สการ์เล็ตวิตช์ (วานด้า แม็กซิมอฟฟ์) ฟาลคอน (แซม วิลสัน) แบล็กแพนเธอร์ (กษัตริย์ทีชัลลาแห่งวากันด้า) สไปเดอร์แมน (ปีเตอร์ พาร์คเกอร์) สตาร์ลอร์ด (ปีเตอร์ ควิลล์) และเพื่อนๆ ในแก๊ง Guardians of the Galaxy อีก 3 คน คือ แดร็กซ์ กรูท และแมนทิส ส่วนกามอร่า ตายไปก่อนหน้านั้นแล้ว เมื่อธานอสตัดสินใจแลกชีวิตลูกสาวบุญธรรมที่เขารักที่สุดกับโซลสโตน ในขณะที่โลกิกับไฮม์ดัลตายตั้งแต่ 5 นาทีแรกของหนัง เมื่อธานอสโจมตียานของชาวแอสการ์ดเพื่อชิงเทสเซอแร็กต์ วิชั่นก็ตายเพราะถูกธานอสควักมายด์สโตนออกจากหน้าผาก แม้แต่บุคคลสำคัญของหน่วยชีลด์ผู้อยู่เบื้องหลังทีมอเวนเจอร์ส อย่าง นิค ฟิวรี่ และผู้ช่วยคนเก่ง มาเรีย ฮิลล์ ก็ร่างแหลกเป็นจุณไปในพริบตา #ร้องไห้หนักมาก
Ant-Man and the Wasp มีเนื้อเรื่องต่อจาก Captain America: Civil War (ปี 2016) อันเป็นหนังปิดไตรภาคกัปตันอเมริกา และหนังเรื่องที่ 13 ของจักรวาลมาร์เวล (อ่านได้ในเบี้ยน้อยหอยน้อย 059) ในเรื่องนั้น ซูเปอร์ฮีโร่ทีมอเวนเจอร์สแตกออกเป็น 2 ฝ่าย แล้วก็สู้กันเอง แอนท์แมนอยู่ฝ่ายกัปตันอเมริกา ซึ่งเป็นฝ่ายที่ต่อต้านการขึ้นทะเบียนซูเปอร์ฮีโร่ตามข้อตกลงโซโคเวีย ก็เลยถูกสหประชาชาติเพ่งเล็ง พอกัปตันสู้กับไอร์ออนแมนจนแทบตายกันไปข้าง และพาบัคกี้หนีไปเข้าตู้แช่แข็งที่วากันด้า (อ่านได้ในเบี้ยน้อยหอยน้อย 163; Black Panther) ซูเปอร์ฮีโร่ฝ่ายกัปตันก็ถูกจับเข้าคุก หลังจากนั้น กัปตันมาช่วยแหกคุกออกไป แต่สก็อตต์ แลง หรือแอนท์แมน (แสดงโดย พอล รัดด์) ไม่อยากให้ลูกสาวกับอดีตภรรยาต้องมาเดือดร้อนไปด้วย แกก็เลยกลับมารับโทษ ถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านของตัวเองเป็นเวลา 2 ปี ทำให้ไม่ได้ไปช่วยซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ใน Avengers: Infinity War
ฝ่าย ดร.แฮงค์ พิม แอนท์แมนรุ่นบุกเบิก (แสดงโดย ไมเคิล ดักลาส) กับลูกสาว คือ โฮป แวน ไดน์ (แสดงโดย อีแวนเจลีน ลิลลี่) หลังจากปฏิบัติการพิทักษ์โลกร่วมกับสก็อตต์ใน Ant-Man ภาคแรกแล้ว (อ่านได้ในเบี้ยน้อยหอยน้อย 044) ทั้งสองก็พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วย แจเน็ต แวน ไดน์ แม่ของโฮป (แสดงโดย มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์) ออกมาจากมิติควอนตัมให้ได้ คุณแม่แจเน็ตผู้นี้ไม่ธรรมดา แม่คือนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งสุดๆ ของหน่วยชีลด์ เมื่อพบรักและแต่งงานกับ ดร.พิม ก็ออกปฏิบัติการร่วมกัน โดยแต่งชุด “เดอะวอสพ์” (แปลว่า ตัวต่อ หรือมดตะนอย) ซึ่งย่อและขยายขนาดได้เช่นเดียวกับชุดแอนท์แมนของสามี ปรากฏว่าในปฏิบัติการครั้งหนึ่ง คุณแม่แจเน็ตได้ตัดสินใจย่อขนาดตัวเองให้เล็กกว่าอะตอม เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้สามารถปฏิบัติการได้สำเร็จ และเป็นการปกป้องชีวิตของสามีด้วย ผลแห่งการย่อตัวจิ๋ว แม่ก็เลยทะลุเข้าไปในมิติควอนตัมและติดอยู่ในนั้น ดร.พิมต้องกลับมาบอกลูกสาวซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 7 ขวบ ว่าคุณแม่ตายแล้ว และด้วยความที่ ดร.พิมโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลาในเรื่องนี้ แกจึงไม่กล้าสู้หน้าลูกสาว และแก้ปัญหาด้วยการส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนประจำ หลังจากนั้นแกก็ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อหาทางพาหมูป่า เอ๊ย! ภรรยากลับบ้าน ใครมาพูดสะกิดเรื่องภรรยาไม่ได้เลย แกจะองค์ลงทันที เรื่องนี้ก็เลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แกผิดใจกับคนในหน่วยชีลด์ และตัดสินใจลาออกในที่สุด
โฮป แวน ไดน์ เติบโตขึ้นมาอย่างห่างเหินกับคุณพ่อ รู้สึกว่าคุณพ่อทอดทิ้งทั้งๆ ที่เพิ่งเสียคุณแม่ไป เธอเพิ่งจะมาเข้าใจคุณพ่อก็เมื่อคุณพ่อตัดสินใจบอกความจริงทั้งหมด จากนั้นสองพ่อลูกก็พยายามหาทางช่วยคุณแม่ ด้วยการสร้างอุโมงค์ควอนตัม ซึ่งเป็นช่องทางที่จะเข้าไปในมิติควอนตัมเพื่อพาคุณแม่ออกมา การนี้จะทำแบบเอิกเกริกก็ไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีไฮเทคขนาดนี้ย่อมเป็นที่จับจ้องของทางการ และเป็นที่หมายปองของคนที่อยากแสวงหาผลประโยชน์ สองพ่อลูกจึงต้องทำแบบลับๆ ในตึกที่สามารถย่อขนาดได้ เพื่อให้ย้ายที่ไปได้เรื่อยๆ ไม่ตกเป็นเป้านิ่งของผู้ไม่หวังดี สก็อตต์ถูกดึงมาช่วยในปฏิบัติการ “ค้นหา ช่วยเหลือ และส่งกลับ” ครั้งนี้ เนื่องจากเขาเคยหลุดเข้าไปในมิติควอนตัม และยังสามารถสื่อสารกับจิตของคุณแม่แจเน็ตได้ด้วย เขาจึงได้กลับมาใส่ชุดแอนท์แมนอีกครั้งหนึ่ง โดยมีโฮปใส่ชุดเดอะวอสพ์เป็นคู่หู เหมือนสมัยที่คุณพ่อคุณแม่เคยปฏิบัติการร่วมกัน
ที่มาภาพ: slashfilm.com
Ant-Man and the Wasp ทำหน้าที่ได้ดีในฐานะหนังภาคต่อ ซึ่งนอกจากจะเป็นภาคต่อของหนังโซโล่แอนท์แมนแล้ว ยังเป็นภาคต่อของหนังเรื่องอื่นๆ ในจักรวาลด้วย ในฐานะหนังโซโล่ของแอนท์แมน มันมีแนวทางที่ชัดเจนของมันอยู่ คือเป็นหนังครอบครัวที่ตลกแบบอบอุ่นผสานแอ็กชันไซไฟ ซึ่งหนังก็ยังคงรักษาแนวทางนี้ไว้โดยไม่ไขว้เขว ทั้งยังรักษามาตรฐานที่สร้างไว้ในภาคแรกได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนในฐานะภาคต่อของหนังเรื่องอื่นๆ ในจักรวาล ดิฉันมองว่ามันเป็นหนังที่มาช่วยดึงจังหวะให้ผู้ชมได้ผ่อนพักจาก Infinity War ซึ่งบีบคั้นหัวใจม้ากกกกก ในขณะเดียวกันก็เร้าความสนใจของผู้ชมให้ยิ่งอยากรู้ขึ้นไปอีกว่าหลังจาก Infinity War แล้วจะเป็นอย่างไร การนำเรื่องอื่นมาคั่นเหตุการณ์ที่กำลังพีคๆ อยู่เช่นนี้ ถ้าไม่แม่นยำจริงๆ ก็กลายเป็นหายนะได้ง่ายๆ แต่แอนท์แมนเป็นหนังที่แม่นยำพอ นี่จึงเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของการ ‘อ่านขาด’ สำหรับโปรเจ็กต์ระยะยาว ซึ่งมาร์เวลนำหน้าค่ายอื่นๆ ไปหลายขุม
พูดถึงโปรเจ็กต์ระยะยาว ก็มีอย่างหนึ่งที่ทำให้คิดว่ามันน่าจะยาวต่อไปได้เรื่อยๆ คือการวางบทบาทของ แคสแซนดรา แลง หรือ “แคสซี่” ลูกสาววัย 9 ขวบของสก็อตต์ ท่านที่เป็นแฟนคอมิกส์คงจะทราบว่า น้องแคสซี่เป็นหนึ่งในสมาชิกทีม Young Avengers อันประกอบด้วยลูกๆ หลานๆ ของซูเปอร์ฮีโร่ชุดผู้ใหญ่ และซูเปอร์ฮีโร่ชุดผู้ใหญ่ที่กลับชาติมาเกิด งานนี้ก็เลยมีความเป็นไปได้สูงมากที่เราจะได้ดูหนัง Young Avengers ในอนาคต เพราะน้องแคสซี่ทั้งฉลาดน่ารักแก่นเซี้ยวแสนซน และอยากทำงานขจัดคนพาลอภิบาลคนดีแบบคุณพ่อ แถมยังสุขภาพจิตดีเยี่ยมแม้จะอยู่ในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่หย่าร้างกัน เพราะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีทั้งจากคุณแม่กับคุณพ่อเลี้ยง และจากคุณพ่อสก็อตต์กับผองเพื่อน คนดูผู้ภักดีอย่างเราก็เตรียมชูป้ายไฟกันยาวไป
จริงๆ แล้ว ขณะดูหนังเรื่องนี้ ดิฉันแอบรู้สึกว่า “มันก็งั้นๆ” อยู่เหมือนกัน เพราะหลังจากโดน Black Panther กับ Avengers: Infinity War เข้าไป ไม่ว่าอะไรก็จืดไปหมด 555 แต่พอมาถึงเอ็นด์เครดิตแรกเท่านั้นแหละ ตายค่ะตายยยยยย สะดุ้งเฮือกแทบตกเก้าอี้ มือเท้าอ่อนลุกไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว #ล้องห้ายยยยย
สรุป: จ่าย 120 ได้กลับมา 145
โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
18 กรกฎาคม 2561
(ขอบคุณภาพปกจาก imdb.com)
