โดย Average Joe
13 ตุลาคม 2012
ที่มารูป: http://www.impawards.com
Argo เป็นหนัง Drama/Thriller ที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ว่าด้วยภารกิจการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกาหกคนในกรุงเตหะราน ระหว่างช่วงวิกฤตจับตัวประกันในอิหร่าน โดยซีไอเอได้วางแผน (ที่โคตรเสี่ยง และเพี้ยนได้โล่) ลวงทางการอิหร่านว่า ทั้งหกคนนั้นเป็นทีมงานสร้างหนังไซไฟ (หลอกๆ) เรื่องหนึ่งชื่อว่า Argo ที่เดินทางมาสำรวจสถานที่ถ่ายหนัง และเมื่อเสร็จงานแล้วก็จะเดินทางกลับประเทศ โดยภารกิจสุ่มเสี่ยงและโหดหินเช่นนี้ ซีไอเอจะต้องร่วมมือกับทางรัฐบาลแคนาดา และแน่นอน…ฮอลลีวูด
แม้จะเป็นหนังที่เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างประเทศ หนำซ้ำยังมีฮอลลีวูดเข้ามามีเอี่ยวด้วย แต่นี่ก็ไม่ใช่หนังการเมืองที่เชิดชู “ฮีโร่อเมริกัน” แต่ถ่ายเดียว แบบที่หนังเรื่องอื่นๆ เคยทำกันมา (เช่น Wag the Dog, 1997) ที่น่าชื่นชมก็คือ Argo ไม่ได้ทำให้อิหร่านเป็น “ผู้ร้าย” แบบฮอลลีวูดจ๋า การใช้วิธีเริ่มเรื่องด้วยคลิปและภาพการ์ตูนสั้นๆ แสดงให้เห็นภูมิหลังของสถานการณ์ทั้งฝั่งอิหร่านและอเมริกาได้อย่างชัดเจน ทำให้คนดูได้เข้าใจว่า การกระทำที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุผลและแรงจูงใจที่สมควรของแต่ละฝ่าย ทุกคนมีหน้าที่และจุดยืนทางความคิดเป็นของตัวเอง ทำให้คนดูอาจคิดตามได้ว่า หากต้องตกในสถานการณ์เช่นนั้นบ้าง เราจะตัดสินใจอย่างไร นอกจากนี้หนังยังแสดงให้เห็นอิทธิพลของสื่อ (ในทางสร้างสรรค์) อีกด้วย ปัจจัยเหล่านี้เองที่ทำให้ Argo ก้าวข้ามผ่านความเป็น “หนังชิงตัวประกัน” ทั่วๆ ไป และหากหนังจะสรรเสริญเชิดชูใคร ก็น่าจะเป็นรัฐบาลแคนาดาและธุรกิจบันเทิงของฮอลลีวูดเสียมากกว่า
การที่ Argo มีตัวละครมากมายหลายกลุ่ม เรื่องราวซับซ้อน และเหตุการณ์ที่เกิดพร้อมกันในหลายสถานที่ ไม่ได้แปลว่าหนังจะดูยากหรือชวนงง ในทางกลับกัน หนังดำเนินเรื่องได้อย่างฉับไว ดูสนุก และทำให้คนดูตื่นเต้น คอยลุ้นตามอยู่แทบทุกฉากทุกตอน การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนเช่นนี้ให้ดูง่าย นอกจากบทที่ดีแล้ว ยังต้องชมผู้กำกับที่สามารถคุมโทนและสเกลหนังที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ และผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก็ได้แก่ Ben Affleck ผู้นี้นี่เอง (ทำเสียงแบบรายการ TV Champion ด้วย)
Ben Affleck เป็นดาราที่ (เคย) ถูกเมาท์หนาหูมากว่าไร้ฝีมือ อาจจะเพราะว่าที่ผ่านมามักรับเล่นหนังแบบไม่ค่อยคิด เลยได้แจ๊กพ็อตไปปรากฏตัวในหนังธรรมดาๆ (จนถึงขั้นห่วย) หลายเรื่อง ขนาดได้แสดงในหนังชั้นดีอย่าง Shakespeare in Love (1998) ก็ยังไม่วายถูกวิจารณ์ว่าเป็นจุดอ่อนของหนังซะงั้น และแม้จะเคยได้ออสการ์จากการเขียนบทภาพยนตร์ (Good Will Hunting ร่วมกับ Matt Damon) ก็มีคนสงสัยว่าได้เขียนจริงๆ กี่เปอร์เซ็นต์กัน (เพราะ Matt Damon ดูฉลาดกว่า?) คำครหาดังกล่าวดูเหมือนจะมลายหายไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาแสดงฝีมือกำกับหนังดรามาเข้มข้นสองเรื่อง ได้แก่ Gone Baby Gone (2007) และ The Town (2010) หนังทั้งสองเรื่องกลายเป็นหนังขวัญใจนักวิจารณ์ แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์และชั้นเชิงในการเล่าเรื่องของเขา บวกกับการแสดงฝีมือครั้งล่าสุดกับ Argo การกำกับหนังระดับ “เจ๋ง” ออกมาติดๆ กันเช่นนี้ น่าจะเป็นการยืนยันได้ว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องฟลุ้ก และหากเขายังรักษามาตรฐานของตัวเองได้เช่นนี้เรื่อยๆ ชื่อ Ben Affleck ในฐานะผู้กำกับ คงสามารถรับประกันคุณภาพของหนังได้มากขึ้น และอาจจะได้รับการยกย่องให้เป็นผู้กำกับแถวหน้าเช่นเดียวกับ Christopher Nolan, Steven Soderbergh, Joel & Ethan Coen, David Fincher, Sam Mendes หรือ Curtis Hanson ได้ในไม่ช้า
8.5/10 ครับ
(ขอให้คะแนนย้อนหลังสักหน่อย Gone Baby Gone เอาไปเลย 9/10 ส่วน The Town เอาไป 8/10 ^_^)
ปล. 1 วิกฤตจับตัวประกันในอิหร่าน (Iran Hostage Crisis) เป็นเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มผู้สนับสนุนการปฏิวัติอิหร่านได้ใช้กำลังเข้ายึดสถานทูตอเมริกันในกรุงเตหะราน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวอเมริกันจำนวน 52 คนถูกจับเป็นตัวประกันนานถึง 444 วัน (ตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน 1979 ถึง 20 มกราคม 1981) แต่บังเอิญว่ามีเจ้าหน้าที่ของสถานทูต 6 คนหลบหนีออกมาได้ และไปซ่อนตัว ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตแคนาดา ซึ่งหกคนนี่เองที่อยู่ในภาวะเสี่ยงที่สุด เพราะถ้าหากถูกจับตัวได้ อาจจะถูกทางการอิหร่านลงโทษอย่างหนักในฐานะนักโทษหลบหนีด้วย (ใครสนใจรายละเอียด ลองค้นกูเกิลด้วยคำว่า Canadian Caper ดูครับ)
ปล. 2 ในตำนานกรีก Argo เป็นชื่อเรือที่เจสันและเหล่าลูกเรือผู้กล้า (ที่เรียกว่า the Argonauts) ใช้เป็นพาหนะเดินทางไปนำขนแกะทองคำมาจากเมืองคอลคิส (Colchis) เพื่อนำมาต่อรองแลกราชบัลลังก์คืนจากพระปิตุลา
ปล. 3 แม้ฝีมือการกำกับหนังของ Ben Affleck จะเป็นที่ยอมรับจากคอหนังและนักวิจารณ์อย่างกว้างขวางแล้ว แต่แอบสังเกตว่า คำโฆษณาบนโปสเตอร์หนังเขียนว่า ‘From the Director of The Town’ แทนที่จะใช้ว่า ‘A Film by Ben Affleck’ แปลว่ายังไงเสีย ชื่อนี้ก็ยังขายในฐานะ “ผู้กำกับยอดฝีมือ” ไม่ได้สินะ อิอิ
