ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 191; ดู Avengers: Endgame หนังที่ก่อให้เกิดกระแส ‘ด่าคนสปอยล์’ รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ แต่เบี้ยน้อยหอยน้อยไม่สปอยล์นะ คนยังไม่ดูก็อ่านได้ คนดูแล้วยิ่งอ่านดีจ้า #พื้นที่โฆษณา
1 ปีผ่านไปหลังจาก Avengers: Infinity War ทำให้เหล่าสาวกสาวิกาหัวใจสลายกลายเป็นผุยผงแหลกละเอียดยิ่งกว่าฝุ่น PM 2.5 ค่ายมาร์เวลก็พาเรามาสู่บทสรุปของมหาสงครามระหว่างทีมอเวนเจอร์สกับธานอส จอมวายร้ายแห่งจักรวาล ในหนังเรื่องสุดท้ายของภาพยนตร์ชุด Avengers อันประกอบด้วยหนัง 4 เรื่อง ได้แก่ Marvel’s The Avengers เมื่อปี 2012 Avengers: Age of Ultron (มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก) เมื่อปี 2015 Avengers: Infinity War (มหาสงครามล้างจักรวาล) เมื่อปีที่แล้ว และ Avengers: Endgame (เผด็จศึก) เรื่องนี้นี่เอง
ที่มารูป: imdb.com
มองย้อนกลับไป หนังทั้ง 4 เรื่องของชุด Avengers ล้วนเกี่ยวข้องกับธานอสทั้งสิ้นเลยนะ
เรื่องแรก ธานอสเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เสี้ยมโลกิให้นำกองทัพเอเลียน “ชิทอรี” มาบุกโลกมนุษย์ จึงถือได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมอเวนเจอร์สได้ถือกำเนิดขึ้น เพราะภัยคุกคามครั้งนี้ทำให้ซูเปอร์ฮีโร่เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกัน
เรื่องที่ 2 ทีมอเวนเจอร์สโดนมนต์สะกดของสการ์เล็ตวิตช์ ทำให้เกิดภาพนิมิตมองเห็นอนาคตอันน่าหวาดหวั่นของตัวเอง ไอร์ออนแมนเห็นทุกคนในทีมนอนตายเกลื่อนบนดาวดวงหนึ่ง เป็นลางว่าพวกเขาจะต้องตายจากศึกใดศึกหนึ่งแน่ๆ ผู้ที่จะชนะศึกนั้นจนถึงขั้นกวาดล้างทีมอเวนเจอร์สได้ทั้งหมด ย่อมจะไม่ใช่โจรกระจอกหรือมนุษย์ธรรมดา ไอร์ออนแมนจึงเสนอว่าควรสร้างหุ่นปัญญาประดิษฐ์ที่มีศักยภาพสูงเพื่อเตรียมต่อกรกับวายร้ายผู้นั้น แต่กัปตันอเมริกาไม่เห็นด้วย ไอร์ออนแมนก็เลยสมคบกับ ดร.บรูซ แบนเนอร์ (เดอะฮัลค์) แอบสร้างหุ่นอัลทรอนขึ้นมา แต่เจ้ากรรมอิหุ่นนั่นดันกลายเป็นวายร้ายเสียเอง ทีมอเวนเจอร์สจึงต้องร่วมกันพิทักษ์โลกอย่างหืดขึ้นคอ เห็นได้ว่า แม้ธานอสจะไม่ปรากฏตัวในหนัง แต่ก็สร้างความกลัวอนาคตให้แก่ไอร์ออนแมนไว้อย่างอุกฤษฏ์ และนับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความร้าวฉานระหว่างไอร์ออนแมนกับกัปตันอเมริกา
มาถึงหนัง Avengers เรื่องที่ 3 ธานอสก็มาเต็มๆ แล้ว ทำเอาสะเทือนไปทั้งจักรวาลต่อเนื่องมาถึงเรื่องที่ 4 ใครจะอยู่ใครจะไปก็ได้รู้กันในคราวนี้
ไหนๆ เบี้ยน้อยฯ ก็เคยเท้าความถึงอินฟินิตี้สโตนทั้ง 6 ชนิดมาแล้ว เมื่อตอนที่เมาท์เรื่อง Avengers: Infinity War (อ่านได้ในเบี้ยน้อยฯ 170) คราวนี้ก็ขอเล่าต่อเลยละกัน ว่าธานอสได้อัญมณีทั้ง 6 มาอย่างไร #เช็ดน้ำตาแพร้บ
อัญมณีชนิดแรกที่ธานอสชิงมาได้ คือ ออร์บ หรือพาวเวอร์สโตน ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่ดาวแซนดาร์ แกยกทัพไปบุกดาวดวงนั้น สังหารทุกคนจนหมดสิ้น
อัญมณีชนิดที่ 2 คือ เทสเซอแร็กต์ หรือสเปซสโตน ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่แอสการ์ด บ้านของธอร์กับโลกิ หลังจากแอสการ์ดแตกเนื่องจากสงครามวันสิ้นโลก (อ่านได้ในเบี้ยน้อยฯ 147; Thor: Ragnarok) ธอร์ โลกิ และไฮม์ดัล ได้พาชาวแอสการ์เดียนผู้รอดชีวิตขึ้นยานอวกาศเพื่อลี้ภัย โดยที่โลกิเอาเทสเซอแร็กต์ติดตัวมาด้วย และเดอะฮัลค์ซึ่งได้ไปร่วมรบในสงครามวันสิ้นโลกก็มากับยานนี้ด้วย แต่ยังไปไม่ทันถึงไหน ยานก็ถูกธานอสโจมตี ธอร์ถูกจับขึงพืด ไฮม์ดัลรีบเปิดประตูมิติส่งเดอะฮัลค์ไปยังมิดการ์ด (โลกของเรานี่แหละ) ธานอสจึงสังหารไฮม์ดัล โลกิเจรจาขอแลกเทสเซอแร็กต์กับชีวิตธอร์ กะจะแย่งคืนทีหลังตามวิสัย แต่ธานอสรู้แกว จึงสังหารโลกิแล้วระเบิดยานทิ้ง พลเรือนแอสการ์เดียนผู้บริสุทธิ์ตายยกลำ
ธอร์สลบเหมือดลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอวกาศ ทีมการ์เดียนส์ออฟเดอะกาแล็กซี่มาช่วยเอาไว้ได้ ธอร์ตัดสินใจเดินทางไปนีดาเวลเลียร์ อาณาจักรของคนแคระ เพื่อให้คนแคระทำอาวุธที่แข็งแกร่งกว่าค้อนโยลเนียร์ให้ ร็อกเก็ตกับกรูทจึงเดินทางไปด้วย เมื่อไปถึงก็พบว่านีดาเวลเลียร์กลายเป็นดาวร้างไปแล้ว เหลือคนแคระอยู่เพียงคนเดียว เล่าให้ฟังว่า ธานอสมาสั่งให้ทำอินฟินิตี้กอนต์เล็ต หรือถุงมือที่เป็นเรือนฝังอัญมณีทั้ง 6 พอทำเสร็จก็ฆ่าล้างบาง มีเพียงแกรอดตายมาได้ ธอร์จึงขอร้องให้คนแคระสร้างขวาน “สตอร์มเบรกเกอร์” ให้ โดยทั้ง 4 คนต้องช่วยกันอย่างสุดกำลังเพราะจะต้องใช้พลังจากแกนดวงดาว ในช่วงที่ทุกคนชุลมุนมือเป็นระวิงอยู่นั้น สตอร์มเบรกเกอร์ใกล้จะหลอมเสร็จ กรูทจึงตัดสินใจตัดแขนตัวเองเพื่อทำเป็นด้ามขวาน ทั้งสี่จึงสร้างสุดยอดอาวุธได้สำเร็จ
อัญมณีชนิดที่ 3 ซึ่งธานอสได้ครอบครอง คือ อีเธอร์ หรือเรียลลิตี้สโตน ซึ่งเก็บรักษาอยู่ในห้องสะสมของเดอะคอลเล็กเตอร์ ที่โนว์แวร์ หลังจากทีมการ์เดียนส์ออฟเดอะกาแล็กซี่ส่งธอร์ ร็อกเก็ต กรูท ขึ้นยานเล็กไปนีดาเวลเลียร์แล้ว สตาร์ลอร์ด กามอร่า แดร็กซ์ และแมนทิส ก็รีบรุดไปโนว์แวร์เพื่อปกป้องอีเธอร์ แต่ก็ไม่ทันธานอส เพราะแกได้สังหารเดอะคอลเล็กเตอร์ และชิงอีเธอร์ไปเรียบร้อยแล้ว
อัญมณีชนิดที่ 4 คือ โซลสโตน ซึ่งมีเพียงผู้เดียวที่ล่วงรู้ว่าอยู่ที่ไหน ก็คือกามอร่า เมื่อทีมการ์เดียนส์ไปถึงโนว์แวร์ กามอร่าได้ถูกธานอสผู้เป็นพ่อบุญธรรมจับเป็นตัวประกัน เธอบอกรักสตาร์ลอร์ดเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย แล้วขอให้เขาฆ่าเธอ เพื่อให้ความลับตายไปกับเธอ สตาร์ลอร์ดจำใจยิงกามอร่า แลกกับการปกป้องมณีตามที่กามอร่าต้องการ แต่ธานอสใช้พลังเรียลลิตี้สโตนซึ่งเพิ่งได้มา เปลี่ยนกระสุนเป็นฟองสบู่ แล้วจับกามอร่าไปที่ยานของตน
เมื่อไปถึงยาน กามอร่าพบว่าเนบิวล่า น้องสาวบุญธรรม ถูกทรมานโดยจับขึงตรึงแยกชิ้นส่วนอยู่ ธานอสขู่ว่าถ้าไม่พาไปเอาโซลสโตน จะฆ่าเนบิวล่า กามอร่าจึงยอมแลกโซลสโตนกับชีวิตน้องสาว พาธานอสไปยังดาววอร์เมียร์ เมื่อไปถึง พบเร้ดสกัลล์ (กะโหลกแดง) ผู้โดนพลังเทสเซอแร็กต์เหวี่ยงมาตกที่ดาวนี้ คอยทำหน้าที่ผู้พิทักษ์โซลสโตนอยู่ เร้ดสกัลล์บอกว่า หากอยากครอบครองโซลสโตน จะต้องเอาชีวิตคนที่ตัวเองรักมาแลก กามอร่าสะใจเพราะคิดว่าธานอสไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง แต่ธานอสกล้ำกลืนน้ำตา ผลักกามอร่าลอยละลิ่วลงสู่หน้าผา สังเวยชีวิตลูกสาวบุญธรรมผู้เป็นที่รัก แลกกับโซลสโตน
อัญมณีชนิดที่ 5 คือ ไทม์สโตน อยู่ในจี้ห้อยคอ “ดวงตาอกามอตโต” ของดร.สเตรนจ์ ในตอนที่เดอะฮัลค์ถูกไฮม์ดัลส่งมายังโลก แกมาตกที่นิวยอร์กใกล้ๆ บ้าน ดร.สเตรนจ์ แล้วกลายร่างกลับเป็น ดร.แบนเนอร์ พอ ดร.สเตรนจ์รู้ว่าธานอสกำลังตามล่าหามณี ก็เรียกไอร์ออนแมนมาแจ้งข่าว แต่ปรากฏว่ากองทัพเอเลียนหน้าเหียก นำโดยพวกลูกๆ บุญธรรมของธานอส ก็ยกมาถึงพอดี เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด สไปเดอร์แมนมาทัศนศึกษาที่นิวยอร์ก รู้ทันทีว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น จึงโดดออกจากรถโรงเรียนมาช่วย ปรากฏว่าพวกเอเลียนปลดมณีออกจากจี้ไม่ได้ เพราะ ดร.สเตรนจ์ร่ายเวทย์พิทักษ์ไว้ พวกมันจึงจับแกขึ้นยานไปเลย ไอร์ออนแมนกับสไปเดอร์แมนเกาะยานตามไปช่วย และใช้แผนทำให้พวกเอเลียนโดนดูดออกจากยานไปจนหมด ดร.สเตรนจ์อยากกลับโลก เพื่อให้มณีอยู่ห่างจากธานอส แต่ไอร์ออนแมนเห็นว่าควรไปดาวไททันของธานอสดีกว่า สู้กันที่นั่นโลกไม่พัง สองคนก็เลยโต้เถียงกันพอควร สุดท้าย ดร.สเตรนจ์ยอมตามไอร์ออนแมน โดยยืนยันว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างปกป้องชีวิตไอร์ออนแมนและสไปเดอร์แมน กับปกป้องมณีไม่ให้ตกไปอยู่ในมือธานอส แกจะเลือกปกป้องมณีโดยไม่ลังเล
เมื่อยานมาถึงดาวไททัน ทั้งสามก็พบกับทีมการ์เดียนส์ อันได้แก่ สตาร์ลอร์ด แดร็กซ์ และแมนทิส โดยมีเนบิวล่ามาสมทบ ทั้งหมดปรึกษากันเพื่อวางแผนการรบ ดร.สเตรนจ์จึงใช้พลังของไทม์สโตนเร่งเวลาไปดูอนาคต พบว่ามีความเป็นไปได้ถึง 14 ล้านกว่าหนทางที่พวกเขาจะแพ้ แต่มีเพียงหนทางเดียวที่จะชนะได้
หลังจากธานอสได้โซลสโตน ก็วาร์ปจากดาววอร์เมียร์กลับมาดาวไททัน และถูกทีมอเวนเจอร์สโจมตีทันที ทุกคนในทีมสู้สุดใจขาดดิ้น แต่ก็สู้ไม่ได้ ในวินาทีที่ไอร์ออนแมนกำลังจะถูกธานอสสังหาร ดร.สเตรนจ์ก็ขอแลกไทม์สโตนกับชีวิตของไอร์ออนแมน ธานอสยอมรับข้อเสนอ และวาร์ปไปยังโลกเพื่อไปเอามณีดวงสุดท้ายทันที
นั่นก็คือ ไมนด์สโตน ซึ่งผนึกอยู่บนหน้าผากของวิชั่น
หลังจากเสร็จศึกอเวนเจอร์สแบ่งพวกตีกัน ใน Captain America: Civil War (อ่านได้ในเบี้ยน้อยฯ 059) ซูเปอร์ฮีโร่ฝ่ายกัปตันอเมริกา ได้แก่ สการ์เล็ตวิตช์ ฟาลคอน แอนท์แมน และฮอว์กอาย ถูกจับขังคุก กัปตันไปช่วยแหกคุกออกมา ฟาลคอนผู้ภักดีต่อกัปตันเยี่ยงบุญปลูกภักดีอาตง ได้ติดตามกัปตันไปด้วย แอนท์แมนกับฮอว์กอายมีครอบครัว ก็เลยขอกลับไปอยู่บ้านในฐานะนักโทษถูกกักบริเวณ ส่วนสการ์เล็ตวิตช์รักกับวิชั่น จึงแอบหนีไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
เวลาผ่านไป 2 ปี ธานอสส่งบรรดาลูกๆ ไปตามล่าวิชั่นเพื่อจะเอามณี แต่กัปตันอเมริกา ฟาลคอน และแบล็กวิโดว์ มาช่วยไว้ได้ทัน แล้วทั้งหมดก็ไปสมทบกับ ดร.แบนเนอร์และโรดี้ (หรือวอร์แมชชีน) ทุกคนตัดสินใจว่าจะต้องทำลายมณีก่อนธานอสจะได้ไป แต่ก็ต้องแงะมณีออกจากหน้าผากวิชั่นก่อน มิฉะนั้นวิชั่นจะตายไปด้วย ทั้งหมดจึงเดินทางไปวากานด้า ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่มีฝ่าบาทแบล็กแพนเธอร์กับบัคกี้ เอ๊ย! มีเทคโนโลยีสูงพอจะผ่าตัดแงะมณีให้วิชั่นได้ แต่ยังไม่ทันแงะได้สำเร็จ กองทัพลูกๆ ธานอสก็บุกวากานด้า ทีมอเวนเจอร์สและชาววากานด้าฟอร์เอฟเวอร์ต่อสู้อย่างถวายชีวิต ธอร์ซึ่งได้อาวุธสตอร์มเบรกเกอร์แล้วก็มาช่วย พร้อมด้วยร็อกเก็ตและกรูทซึ่งสู้ยิบตา
สุดท้ายเมื่อธานอสวาร์ปมาถึง แกก็สังหารวิชั่นด้วยการแงะไมนด์สโตนออกจากหน้าผาก ทำให้แกมีมณีครบ 6 ดวงอยู่ในอินฟินิตี้กอนต์เล็ตพร้อมแล้ว ธอร์กระโดดจู่โจมเอาขวานสตอร์มเบรกเกอร์ปักอกธานอส แต่พลังมณีทำให้แกไม่ตาย ก่อนที่แกจะวาร์ปจากไป แกบอกกับธอร์ว่า ถ้าจะฆ่าแก ก็ควรเล็งที่หัว
เรื่องราวการได้มาซึ่งมณีของธานอสก็เป็นเช่นนี้แล
ทั้งนี้ หลังจากคนจำนวนมากต้องสังเวยชีวิตแลกกับมณีไปก่อนหน้า ผลแห่งการดีดนิ้วของธานอสเมื่อใส่อินฟินิตี้กอนต์เล็ต ก็ได้ทำให้สิ่งมีชีวิตครึ่งจักรวาลร่างสลายกลายเป็นจุณไปสมมโนรถของแก ผู้ที่ยังรอดชีวิตเดนตายอยู่ มีเพียงไอร์ออนแมน กัปตันอเมริกา ธอร์ แบล็กวิโดว์ ฮอว์กอาย ดร.แบนเนอร์ โรดี้ ร็อกเก็ต เนบิวล่า โอโคเย (แม่ทัพหญิงแห่งวากานด้า) วัลคีรี (นักรบหญิงแห่งแอสการ์ด) และแอนท์แมน ผู้ติดอยู่ในมิติควอนตัม เพราะ ดร.แฮงค์ พิม และครอบครัว ซึ่งกำลังทำการทดลองร่วมกับเขา ป่นเป็นผงคลีไปยกครัว ดังปรากฏในเอ็นด์เครดิตของ Ant-Man And the Wasp (อ่านได้ในเบี้ยน้อยฯ 177) อ้อ! มีกัปตันมาร์เวลอีกคน (อ่านได้ในเบี้ยน้อยฯ 190) ทั้งหมดนี้ แท้ที่จริงก็คงจะเป็น ‘การแลกที่คุ้มค่า’ ของ ดร.สเตรนจ์ ซึ่งยินยอมให้ธานอสได้ครอบครองอัญมณีครบทั้ง 6 ดวง แล้วดีดนิ้วให้คนครึ่งหนึ่งตาย รวมทั้งตัว ดร.สเตรนจ์เองด้วย เพื่อให้คนอีกครึ่งหนึ่ง รวมทั้งบุคคลที่กล่าวมาข้างต้น ได้มีชีวิตอยู่
อันจะนำไปสู่หนทางหนึ่งเดียวที่พวกเขาจะชนะในเบื้องปลาย
การรอดชีวิตของแต่ละคนคุ้มค่าแค่ไหน จากที่ได้ดูหนัง Avengers: Endgame แล้ว ดิฉันรู้สึกว่า บางคนก็เกินคุ้ม แต่กับบางคนก็น่าสงสารพิกล เพราะแทบไม่มีบทบาทช่วยเหลือทีมเท่าไหร่เลย
พูดไปก็น่าเสียดาย เพราะบทหนังเรื่องนี้มีปัญหามากโขอยู่ เหมือนกับว่าพยายามจะให้เหตุการณ์พลิกผันไปมา จนละเลยสิ่งสำคัญบางอย่างไป ประเด็นที่ชูขึ้นมาเป็นแกนหลักของเรื่องก็ไม่ได้รับการส่งเสริมให้แข็งแรงนัก ต่างจาก Avengers: Infinity War ซึ่งทำได้หมดจดงดงามอย่างที่สุด
อีกอย่างที่ดิฉันขัดเคืองเป็นการส่วนตัว คือธานอสผู้ซึ่งเห็นได้ชัดเจนใน Infinity War ว่าเป็นตัวร้ายที่มีมิติมาก พอมาถึง Endgame กลับกลายเป็นท่านผู้นำบ้าอำนาจอย่างดาษๆ เคราะห์ดีที่หนังยังมีตัวละครน่าสนใจอย่างเนบิวล่า ลูกสาวบุญธรรมของธานอส ผู้ถูกเคี่ยวกรำอย่างเข้มงวดให้เป็นนักสู้ที่เก่งกาจ หากวันใดไม่เก่งสมใจพ่อ ก็จะถูกตัดอวัยวะออกทีละชิ้น แล้วใส่จักรกลเข้าไปแทน ผู้รับบทเนบิวล่าเป็นนักแสดงชาวสก็อต ชื่อคาเรน กิลแลน (นางเอกเรื่อง Oculus และ Jumanji: Welcome to the Jungle) เธอเป็นสาวสวยหุ่นเช้งผู้ทุ่มเทกับบทนี้มากจนลงทุนโกนหัวจริงๆ เพื่อให้แต่งหน้าแต่งตัวง่ายขึ้น แม้กระนั้นการแปลงโฉมเธอให้เป็นเนบิวล่าก็ยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี แต่ที่น่าชื่นชมที่สุด เมคอัพเหล่านั้นไม่อาจบดบังการแสดงที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ภายใต้บุคลิกแข็งทื่อและรูปลักษณ์จักรกลสังหารอันน่าหวาดหวั่นนั้นได้ ความสำเร็จที่เธอได้รับจากการรับบทเนบิวล่านี้ นับว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งกับความทุ่มเทตลอดหลายปีที่ผ่านมาของเธอ
หากจะนับรวมหนังทั้งหมดตั้งแต่เปิดเฟสแรกของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา หนัง Avengers: Endgame นี้ก็เป็นเรื่องที่ 22 แล้ว เหลืออีกเพียงเรื่องเดียวก็จะปิดเฟส 3 อันเป็นเฟสสุดท้ายที่วางไว้ตั้งแต่ต้น การที่ผู้รอดชีวิตจาก Infinity War ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกทีมอเวนเจอร์สรุ่นแรกเมื่อหลายปีก่อน สำหรับดิฉันจึงเป็นเสมือนการคารวะต่อตัวละครที่มีส่วนในการบุกเบิกจักรวาลมาร์เวลในโลกภาพยนตร์ ซึ่งถ้าปราศจากการแสดงอันยอดเยี่ยมในบทบาทเหล่านั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนังจักรวาลมาร์เวลจะมาไกลจนถึงวันนี้หรือไม่
หนังซูเปอร์ฮีโร่จักรวาลมาร์เวลชุดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นี้ จะเป็นตำนานในโลกภาพยนตร์อยู่ตราบใด
ตราบนั้น ผู้ชมทั่วโลกก็คงไม่มีวันลืมบทบาท “ไอร์ออนแมน” หรือ โทนี สตาร์ค ของโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์
“กัปตันอเมริกา” หรือ สตีฟ โรเจอร์ส ของคริส อีแวนส์
“ธอร์” ของคริส เฮมส์เวิร์ธ
“แบล็กวิโดว์” หรือ นาตาชา โรมานอฟฟ์ ของสการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน
“ฮอว์กอาย” หรือ คลินต์ บาร์ตัน ของเจเรมี เรนเนอร์
“เดอะฮัลค์” หรือ ดร.บรูซ แบนเนอร์ ของมาร์ค รัฟฟาโล
และ #แอบแถม “โลกิ” ของทอม ฮิดเดิลสตัน
ไม่มีวันลืมว่าแต่ละคนเคยสถาปนาบทบาทเหล่านั้นให้จำหลักในใจผู้ชม ไม่ว่าเขาและเธอจะไปรับบทอื่นใดอีกก็ตามนับจากนี้
สรุป: จ่าย 99 (ใช้โปรโมชั่นจากแอพจองตั๋วหนังของ Major) ได้กลับมา 157
โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
11 พฤษภาคม 2562
(ขอบคุณภาพปกจาก imdb.com)
