The Beguiled เล่ห์ ลวง ร้าย ริกริก
The Beguiled เป็นหนังแนว ดาร์กๆ นัวร์ๆ ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับทหารหนุ่มคนหนึ่ง (คอลิน ฟาร์เรลล์) ที่บาดเจ็บหนักที่ขาจากสงครามกลางเมืองในช่วงปี 1864 แต่โชคดี หรือ เทวดาผลักไม่รู้ มีเด็กหญิงคนหนึ่งมาพบพอดี ขณะกำลังเก็บเห็ดอยู่ในป่า เด็กหญิงจึงพาเขากลับไปรักษาที่โรงเรียนซึ่งเธออาศัยอยู่
ที่โรงเรียนสตรีแห่งนี้ มีคนอาศัยอยู่แค่ 7 คน และเป็นผู้หญิงทั้งหมด มีครูใหญ่ (แสดงโดยดาราที่บวกเลขเก่งที่สุด นิโคล คิดแม่น) ครูรองลงมา (คริสเท่น ดันซท์) และเด็กนักเรียนหญิงที่มีอายุลดหลั่นกันมาอีก 5 คน ที่โดดเด่นสุด และคันสุด ก็น้องแอล แฟนนิ่ง สุดสวย
ที่มาภาพ: elleuk.com
เมื่อ 1 บุรุษแมนๆ มาพบกับสตรีทั้ง 7 ซึ่งอยู่ในโรงเรียนเกือบร้างในป่าลึก ทุกคนก็ต่างนั่งสวดมนต์ด้วยใจผ่องแผ้ว เอ้ย ไม่ใช่สิ สาวๆ อดอยากปากแห้งกันขนาดนี้ มันก็ต้องมีอะไรแซ่บๆ เกิดขึ้นบ้าง
ในหนัง ได้แนะนำให้ผู้ชมได้รู้จักแรดหลากหลายสายพันธุ์ แรดเปิดเผย แรดเงียบ แรดลุ่มลึก แรดบ้างไรบ้าง แรดใสๆ นอเพิ่งขึ้น เขียนแล้วเหมือนกำลังผรุสวาทรัวๆ แต่ถ้าได้ดูหนัง ก็จะเข้าใจว่า โลกเรานี่มีความหลากหลายทางแรดจริงๆ และวิธีที่สาวๆ หลายๆ นางพยายามงัดมาใช้เพื่อทำให้ทหารหนุ่มหันมาสนใจตน หลายๆ ครั้งก็ดูเป็นฉากตลกร้าย ดูไปก็หัวเราะหึหึในลำคอให้กับมารยาของพวกนาง
จริงๆ ถ้าสาวๆ ได้เคยผ่านข้อสอบโอเน็ตของไทยบ้าง ก็จะรู้ว่าเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ ควรจะไปเตะบอล เรื่องวุ่นๆ ก็คงไม่เกิดขึ้น
โซเฟีย คอปโปลา ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ได้กำกับ mood & tone ของภาพออกมาได้สวยงาม มีระดับ พร้อมทำให้รู้สึกหวั่นๆ เหมือนมีอะไรไม่ปกติตลอดเวลา Setting โรงเรียนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้ป่าทึบ บวกกับมุมกล้องที่เหมือนแอบมองเข้าไป ให้ความรู้สึกลึกลับ เหมือนมีอะไรซ่อนอยู่
ความเป็นจริงในเรื่องก็เป็นเช่นนั้น ที่นี่คือโรงเรียนสตรีที่เคร่งศาสนา เงียบสงบ สวดมนต์ทุกวัน แต่เมื่อมีสิ่งยั่วเย้าอื่นเข้ามา เช่น ชายฉกรรจ์หล่อเข้ม สัญชาตญาณดิบ ตัณหา ราคะก็กดไว้ไม่อยู่ จนเกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้น และเมื่อมีจุดเปลี่ยน ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่บีบคั้น เลวร้าย ความอ่อนหวานที่เคยมี ก็กลายเป็นความโหดเพื่อความอยู่รอด
หนังอาจจะดูเน้นที่ด้านมืดของผู้หญิง แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ไม่ต่างกัน เมื่อคนเรามาถึงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ความโหดร้ายของแต่ละคนมันจะระเบิดออกมา จนน่าตกใจว่า นี่มันคนละคนรึเปล่า
แม้ The Beguiled จะเป็นหนังว่าด้วยตัณหา ราคะ แต่ฉากเซ็กส์น้อยมาก (โอเค เลิกดูครับพี่น้อง เอ้ย ไม่ใช่) โดยโซเฟียให้เวลากับฉากที่สร้างจินตนาการที่รัญจวนมากกว่าจะเน้นฉากเซ็กส์ที่โจ่งครึ่ม บางช่วงของหนังมีความเนือยๆ เอื่อยๆ และถ้าพูดถึงในแง่ของความเล่ห์ลวง ตามชื่อหนัง The Beguiled ส่วนตัวรู้สึกว่า มันน่าจะต่ำตม หักมุมมากกว่านี้ อาจเพราะเราอยู่ในยุค 2017 ที่พลอตเรื่องต่างๆ พัฒนาความแรงไปจนเผ็ชสุดๆ ไปแล้วก็ได้ แต่ถ้าย้อนไปในปี 1966 ที่เรื่องนี้แต่งขึ้นเป็นนิยาย หรือการถูกทำเป็นหนังครั้งแรกในปี 1971 ก็ถือว่าจุดพลิกผันของเรื่อง และจุดจบของเรื่องก็น่าจะช็อกคนดูได้ทีเดียว ซึ่งจะว่าไป จริงๆ ตอนดูหนัง ก็คาดไม่ถึงเหมือนกันนะ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่สุด อาจเป็นความคาดหวังจากชื่อเรื่อง ว่าจะได้เห็นอะไรที่ลวงหลอกเราได้ซับซ้อน ซ่อนเงื่อนมากกว่านี้
เตรียมตัวเตรียมใจให้หลอก มาลวงมาหลอกกันแค่เนี้ยะ ว้า
โดย Connecting Dots
6 กันยายน 2560
(ขอบคุณภาพปกจาก gconhub.com)
