โดย Average Joe
13 กุมภาพันธ์ 2014
เมื่อ รอน วู้ดรูฟ ไอ้หนุ่มดัลลัสขี้เหล้าขี้ยา ชอบทำตัวกร่าง ปากเสีย และเกลียดเกย์ ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวี และมีชีวิตเหลืออยู่เพียง 30 วันเท่านั้น เขาใช้เวลาตั้งแต่ปฏิเสธความจริง โกรธ เสียใจ สิ้นหวัง ไปจนถึงขั้นยอมรับในช่วงเวลาไม่กี่วันเท่านั้น หลังจากเริ่มทำใจได้ เขาก็เดินหน้าประกอบวีรกรรม “สู้เพื่อชีวิต” อันส่งผลกระทบทั้งต่อผู้คนในวงกว้างและย้อนกลับมาเปลี่ยนแปลงตัวตนของเขาเองด้วย
หลังจากรู้ตัวว่าติดเชื้อ วู้ดรูฟถูกกลุ่มเพื่อนที่เคยสนิทกันมาตั้งแง่รังเกียจ ในขณะเดียวกันเขากลับได้รับมิตรภาพจากกลุ่มเกย์ที่เขาเองเคยรังเกียจมาก่อน หนึ่งในนั้นคือเรยอน กะเทยสาวอารมณ์ดีที่กลายมาเป็นคู่หูร่วมธุรกิจกับเขาในเวลาต่อมา ระหว่างขั้นตอนการดิ้นรนยื้อชีวิตตัวเองให้อยู่ได้นานที่สุด เขาลงทุนเดินทางข้ามประเทศเพื่อหาหมอและยาที่จะช่วยรักษาตัวเองได้ (โดยไม่สนว่ามันจะผิดกฎหมายหรือไม่) เขาทุ่มเทศึกษาค้นคว้าและถึงกับเสี่ยงทดลองยากับตัวเองจนเกือบตายเพราะยา (แทนที่จะเป็นเชื้อโรค) มาแล้ว จนได้มาเป็นคนขายยาให้กับผู้ที่ติดเชื้อในชุมชน และกลายเป็นที่พึ่งใหม่ให้กับผู้ป่วยที่รอยาจากทางการไม่ไหวด้วย เห็นเรื่องมาแบบนี้ก็อย่าเพิ่งคิดไปว่า พระเอกของเราจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นผู้ใจบุญ มีน้ำใจแจกจ่ายยาไปทั่ว อย่าลืมว่านี่คือหนังที่สร้างจากชีวิตของบุคคลจริง (วู้ดรูฟมีตัวตนจริง แต่ตัวละครที่เหลือถูกแต่งขึ้นมาทั้งหมด) โรคร้ายไม่ได้ทำให้วู้ดรูฟกลายเป็นพ่อพระในชั่วข้ามคืน เขายังเป็นคาวบอยเลือดร้อน ปากเสีย ดื้อรั้น และเห็นแก่เงินเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาเปิดมุมมองของตัวเองให้กว้างขึ้น เขาได้เรียนรู้ที่จะยอมรับและเห็นคนอื่นเป็น “มนุษย์” เช่นเดียวกับตัวเขาเอง โดยมองข้ามเปลือกนอกที่ถูกตีกรอบไว้ด้วยนิยามของเพศสภาพ หรือสถานะทางสังคม
ที่มารูป: https://i.ytimg.com
Matthew McConaughey และ Jared Leto เป็นนักแสดงสองคนล่าสุดที่ได้โอกาสพิสูจน์ฝีมือการแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ หลังจากถูกมองว่าขายแต่รูปลักษณ์ภายนอกมานาน (ก่อนหน้านี้ก็มี Bradley Cooper ที่หลายคนมองว่ามีดีแค่หน้าหล่อๆ เท่านั้น) จะว่าไปพี่แมทธิวแกก็แสดงดีมาหลายเรื่องล่ะนะ โดยเฉพาะสองสามปีหลังมานี้ แสดงเรื่องไหนก็ได้คำชมไปเสียหมด แต่นี่คงเป็นเรื่องแรกที่พี่แกเปลี่ยนตัวเองไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมได้ขนาดนี้
นอกจากการทุ่มเทลดน้ำหนักจนผอมบักโกรกแล้ว พี่แมทธิวก็ยังควบคุมการแสดงอารมณ์อันซับซ้อนของตัวละครได้อยู่หมัดและมีพัฒนาการดีเยี่ยม ส่วน Jared Leto ก็ตีบทแตกกระจุยในการกลายเป็นเรยอน กะเทยสาวผู้ติดเชื้อเอดส์ นางน่ารัก ยียวน อ่อนไหว และสามารถดึงความสนใจไปอยู่ที่ตัวเองได้ทุกครั้งที่ปรากฏตัวบนจอ โดยเฉพาะในตอนท้ายที่ถึงจุดเปราะบางที่สุด นางก็แทบทำให้หัวใจคนดูแตกสลายไปด้วยเลยทีเดียว อีกคนที่ต้องชมคือ Jennifer Garner แม้บทของเธอจะดูเรียบๆ และไม่ต้องทุ่มเทแปลงร่างเหมือนนักแสดงหนุ่มทั้งสอง แต่ตัวละครคุณหมอของเธอก็ไม่ใช่บทที่แสดงง่ายในฐานะของคนที่ต้องยืนอยู่ตรงกลางระหว่างความถูกต้องตามกฎระเบียบและความเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์
ที่มารูป: http://reveremagazine.com
โดยรวมแล้ว แม้หนังจะเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่ได้ฉูดฉาดเท่ากับตัวละครในเรื่อง ไม่ได้มีจุดพีคที่ชัดเจน แต่อย่างน้อย Dallas Buyers Club ก็แสดงให้เราเห็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายวู้ดรูฟและกลุ่มผู้ติดเชื้อ หรือฝ่ายหมอและผู้ผลิตยาก็ตาม
นอกจากนี้ ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณธรรม ความเห็นใจ และความถูกต้อง ให้พวกเรากลับไปคิดต่อกันอีกด้วย
8/10 ครับ ^_^
