ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 166; ดู Earth: One Amazing Day ภาพยนตร์สารคดีชีวิตสัตว์สุดมหัศจรรย์
ที่มาภาพ: movie.mtime.com
สัตว์น้อยน่ารักในโปสเตอร์นี้คืออิกัวนาทะเล พบได้ที่หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์ เพียงแห่งเดียวในโลก เจ้าตัวนี้คือลูกอิกัวนาซึ่งเพิ่งออกจากไข่มาเมื่อครู่ แต่ไฉนมันจึงมีสีหน้ามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวราวกับผ่านโลกมาโชกโชนแล้วเยี่ยงนี้
ก็เพราะเพียงไม่กี่นาทีหลังจากมันลืมตาดูโลกในยามเช้าของวันนั้น มันก็ได้ผ่านประสบการณ์ที่แม้แต่มนุษย์แก่แดดแก่ลมอย่างดิฉันยังตื่นตระหนกจนหัวใจแทบหยุดเต้น
นี่คือฉากหนึ่งในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Earth: One Amazing Day ภาพยนตร์ที่เป็นผลจากความร่วมมือของ BBC Earth Films แผนกผลิตภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ (British Broadcasting Corporation: BBC) กับ SMG Pictures แผนกผลิตภาพยนตร์ของ Shanghai Media Group (SMG) แห่งนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
บีบีซีเป็นสื่อวิทยุโทรทัศน์ที่จับงานสารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมานานแล้ว จึงมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้สูงมาก หนึ่งในรายการสารคดีทางโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จมากของบีบีซีก็คือ Planet Earth ความยาว 11 ตอน ออกอากาศเมื่อปี 2006 (พ.ศ. 2549) ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณได้นำมาฉายให้คนไทยได้ชมเมื่อต้นปี พ.ศ. 2557 รีรันต้นปี พ.ศ. 2558 ในชื่อ “เปิดโลกอัศจรรย์ Planet Earth” พอปลายปี 2558 ช่อง NOW 26 ซึ่งเป็นช่องทีวีดิจิทัล ก็นำไปฉายบ้าง ในชื่อ “Planet Earth พิภพโลก” เป็นโอกาสให้เราชาวไทยได้ดูสารคดีดีๆ ซึ่งชนะรางวัลต่างๆ มามากมายทั้งทางฝั่งอังกฤษและอเมริกา
บีบีซีต่อยอดความสำเร็จของ Planet Earth ด้วยการสร้างภาพยนตร์สารคดีฉายในโรงใหญ่ เมื่อปี 2007 โดยนำ Planet Earth มาเรียบเรียงตัดต่อใหม่ร่วมกับฟุตเทจที่ยังไม่เคยเผยแพร่มาก่อน กลายเป็นหนังความยาว 99 นาที ชื่อ Earth หนังพาเราไปตามติดสัตว์ใหญ่ 3 ชนิดในช่วงเวลา 1 ปี ได้แก่ หมีขั้วโลกในทวีปอาร์กติก ช้างพุ่มไม้แอฟริกาในทะเลทรายคาลาฮารี และวาฬหลังค่อมที่ว่ายลงใต้ไปทวีปแอนตาร์กติกา เรื่องราวเริ่มต้นในเดือนมกราคมที่ขั้วโลกเหนือ ไปจบในเดือนธันวาคมที่ขั้วโลกใต้ เพื่อให้เห็นการใช้ชีวิตในฤดูกาลต่างๆ ของสัตว์และพืชในส่วนต่างๆ ของโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการกระทำของมนุษย์
Earth: One Amazing Day เป็นหนังภาคต่อของ Earth ใช้ชื่อไทยว่า “เอิร์ธ: 1 วันมหัศจรรย์สัตว์โลก” ส่วนชื่อจีนตามที่เห็นในโปสเตอร์ คือ 地球 : 神奇的一天 แปลตรงตัวมาจากชื่อภาษาอังกฤษเลย (地球 ตี้ฉิว แปลว่า “โลก” 神奇的一天 เฉินฉีเตอะอีเทียน แปลว่า “1 วันอันอัศจรรย์”) หนังไม่ได้โฟกัสที่สัตว์แค่ 3 ชนิดโดยมีสัตว์อื่นๆ เป็นตัวประกอบอย่างภาคแรก แต่พาเราไปดูเรื่องราวของสัตว์ 30 กว่าชนิด ใน 22 ประเทศทั่วโลก ให้เห็นกิจกรรมเด็ดๆ ของพวกมันในช่วงเวลา 1 วัน ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า จนถึงพระอาทิตย์ตกในยามค่ำคืน
หนังมีวิธีการดำเนินเรื่องที่ชาญฉลาดมาก คือให้ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของเรื่อง แล้วฉายภาพชีวิตของสัตว์ต่างๆ ที่ดำรงอยู่และดำเนินไปอย่างสอดคล้องกับวงจรของดวงอาทิตย์ ตั้งแต่เช้า สาย เที่ยง บ่าย เย็น ไปจนถึงค่ำ โดย ‘ฉากหนึ่งในชีวิต’ ของสัตว์แต่ละชนิดได้รับการนำเสนอราวกับเป็นหนังแนวต่างๆ เช่น หนังแอ็กชันผจญภัย หนังคาวบอย หนังตลก หนังรักโรแมนติก หนังดราม่า หนังครอบครัว มีแม้กระทั่งหนังเขย่าขวัญ ซึ่งนอกจากจะพีคสุดๆ ในทุกแนวแล้ว ยังทำให้เราได้เห็นสัตว์ต่างๆ ในแง่มุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย อย่างยีราฟ ดิฉันนี่อ้าปากค้างจนถ้าในโรงหนังมีแมงวันมันคงบินเข้าปากได้ทั้งฝูง เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยเห็นยีราฟโหมดนี้มาก่อนเลยพับผ่า
การถ่ายทำหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องใช้ทีมงานจำนวนมากบุกป่าฝ่าดงขึ้นเขาลงห้วยเข้าไปในถิ่นที่อยู่ของสัตว์แต่ละชนิด ไปถึงก็ต้องไปซุ่มให้เนียนๆ กับธรรมชาติ แล้วก็อยู่กันยาวไป ถ่ายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ฉากเด็ดๆ ในชีวิตของสัตว์นั้นๆ ซึ่งบางทีก็ต้องรอกันเป็นเดือน อุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องพร้อม ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายภาพยนตร์คุณภาพสูงสำหรับถ่ายภาพกว้าง กล้องสำหรับถ่ายใต้น้ำ โดรนสำหรับถ่ายภาพมุมสูง กล้องเล็กเคลื่อนที่ได้สำหรับถ่ายภาพใกล้ในระดับพื้นดิน แถมด้วยเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้ตากล้องเข้าใกล้สัตว์ได้โดยต่างฝ่ายต่างไม่ตกใจกัน เช่น ในการถ่ายแพนดายักษ์ ตากล้องต้องใส่ชุดแพนดา แล้วก็เอาอึแพนดาป้ายตัว ให้มีกลิ่นฉมจรุงจิต เพื่อให้แพนดารู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน #เจ๋งค่อด
การถ่ายทำว่ายากแล้ว การตัดต่อยากยิ่งกว่า เพราะแต่ละพื้นที่ใช้เวลาถ่ายกันหลายวัน พอเอาฟุตเทจมารวมกัน บันทึกใส่ดีวีดีได้ตั้ง 12,000 แผ่น ทั้งหมดนี้เขาต้องเอามาตัดต่อร้อยเรียงให้เป็นหนังความยาว 95 นาที เพื่อบอกเล่าเรื่องราว 1 วันในโลก ซึ่งสัตว์ต่างๆ แม้จะดำเนินชีวิตของมันไปตามธรรมชาติ แต่ก็มีความพิเศษน่าอัศจรรย์ในตัวมันเอง รวมแล้ว หนังใช้เวลาถ่ายทำ 142 วัน ตัดต่ออีก 3 ปี สุดยอดแห่งความพากเพียรโดยแท้
ผู้บรรยายหนังสารคดีเรื่องนี้ ฉบับภาษาอังกฤษ คือนักแสดงอาวุโส โรเบิร์ต เรดฟอร์ด ส่วนฉบับภาษาจีน บรรยายโดยนักแสดงระดับโลก เฉินหลง ดิฉันดูฉบับภาษาอังกฤษ รู้สึกว่าคุณป๋าเรดฟอร์ดมีเสียงทุ้มนุ่มฟังดูอบอุ่นและเข้าใจโลก เหมาะกับเนื้อหาของเรื่องเป็นอย่างมาก ทำให้อยากดูฉบับภาษาจีนขึ้นมาทันที อยากรู้ว่าคุณป๋าเฉินหลงจะพากย์ยังไง ส่วนฉบับภาษาไทย พากย์โดยคุณวู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ก็น่าจะสนุกดีไม่ใช่น้อย เหอๆๆ
ช่วงนี้ หลายๆ คนคงมีอาการ ‘เบื่อโลก’ อยู่บ้าง ตามประสาคนที่อยู่บนโลกมานาน ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ประคับประคองตัวเองให้อยู่รอดไปในแต่ละวัน ทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เลยดูธรรมดาไปหมด มองไม่ค่อยเห็นว่าพิเศษยังไง หนังเรื่องนี้เปิดตาเปิดใจให้เรามองเห็นและตระหนักได้ถึงความพิเศษของโลกใบนี้ ว่ามันคือที่แห่งเดียวที่เราจะได้พบเจอความมหัศจรรย์แบบที่เราเห็นในหนังได้ ถ้าเพียงแต่เราจะมองออกไปให้ไกลกว่าตัวเราสักนิด เพื่อสัมผัสกับสรรพชีวิตที่เป็นเพื่อนร่วมโลกของเรา เราก็จะประจักษ์ความจริงว่า แม้การดำเนินชีวิตตามปกติในแต่ละวัน ก็เป็นความอัศจรรย์อย่างที่สุดแล้ว
สรุป: จ่าย 140 ได้กลับมา 177
โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
28 มีนาคม 2561
(ขอบคุณภาพปกจาก imdb.com)
