โดย Win Malaiwong
3 มีนาคม 2017
Logan (2017) เป็นหนังแอ็กชันดรามา มีทั้งสองอย่างในสัดส่วนที่เท่ากันเลย เปิดเรื่องมาในปี ค.ศ. 2029 X-Men กลายเป็นตำนาน มนุษย์กลายพันธุ์หลงเหลืออยู่น้อยเต็มที จะมีเพียง Logan ที่พลังและความสามารถเริ่มเสื่อมถอยไปพร้อมสังขาร เขาต้องหลบซ่อนคอยดูแล Charles Xavier ตรงตะเข็บชายแดนเม็กซิโก มีมนุษย์กลายพันธุ์อีกคนชื่อ Caliban เป็นผู้ช่วย แล้ววันหนึ่งหญิงสาวแปลกหน้าพาเด็กหญิงอายุประมาณ 10 ขวบมาเพิ่มภาระให้ Logan ดูแลเพิ่มอีกคน
ที่มาภาพ: traileraddict.com
บรรยากาศหนังสร้างความอบอุ่นใจน้ำตาไหลรื้น ผ่านการนำเสนอภาพคน 3 รุ่นที่ต่างโหยหาอดีตและความรักความอบอุ่นจาก “ครอบครัว” ที่ตนเคยมี พอต้องมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน เคมีระหว่างตัวละครเหล่านี้มันเข้ากันดีนะ Logan ถูกกำหนดให้ทำหน้าที่ caretaker คอยช่วยเหลือดูแลผู้อื่นเสมอในหนัง X-Men series มาเรื่องนี้ Logan เกิดร่องรอยความเหนื่อยล้าชัดเจน ก็มีการสลับบทบาทให้เขาเป็นผู้ได้รับการดูแลบ้าง โมเมนต์ซาบซึ้งกระจายอยู่ทั่วไปในหนัง แต่ผู้กำกับไม่ปล่อยให้ผู้ชมเคลิบเคลิ้มอยู่นาน พอฉากอารมณ์บิ้วต์ขึ้นไปกำลังดี ฮีก็กระชากเรากลับมาที่ฉากบู๊ทันที #ความสุขไม่จีรัง
ในส่วนของการต่อสู้ก็ทำได้ดีเสมอครั้งที่ผ่านมา เลือดท่วมจอเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแฝงแนวคิดเชิงปรัชญา ส่วนตัวที่ชอบคือตอน Logan ต่อสู้กับโคลนนิงของตัวเองที่ Transigen ผลิตขึ้นมา มีความสามารถเหมือน Logan ทุกอย่าง ต่างกันที่ตัวโคลนนิง “นิ่ง” สมชื่อ ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก เหมือนกับ Logan กำลังต่อสู้กับตัวเองตอนหนุ่ม ตอนที่เขาฆ่าได้โดยไม่รู้สึก ยิ่งตอกย้ำทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวละคร Logan ว่าวิวัฒนาการสุดท้ายของเขาคือมีเลือดเนื้อและอารมณ์
เป็นบทส่งท้ายของ Logan/Wolverine ที่ทรงพลังพอควร ไม่ร้องไห้ฟูมฟาย แต่เจ็บหนึบเอาเรื่องเหมือนกัน
(ขอบคุณภาพปกจาก desktopwallpapers.us)
