โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
30 กันยายน 2016
ที่มารูป: http://cdn2-www.comingsoon.net
ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 075; ดู Sully หนังที่เป็นผลงานการกำกับเรื่องที่ 35 ของคุณปู่คลินต์ อีสต์วูด และเป็นผลงานการแสดงรวมทั้งพากย์เสียงเรื่องที่ 53 ของคุณน้าทอม แฮงคส์ #กลับเลขให้เสร็จสรรพเชิญซื้อหวยได้
ปู่คลินต์ปีนี้อายุ 86 แล้ว ยังคงฟิตเปรี๊ยะยังกับติดเทอร์โบ ทำหนังสนุกๆ มาให้เราดูแทบทุกปี ปีนี้ปู่หยิบยกเรื่องราวของกัปตันเชสลีย์ “ซัลลี่” ซัลเลนเบอร์เกอร์ แห่งสายการบิน US Airways มาบอกเล่าแก่ชาวโลก กัปตันผู้นี้มีวีรกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2552 คือสามารถนำเครื่องบินซึ่งถูกฝูงนกบินชนจนเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องดับสนิท ลงจอดกลางแม่น้ำฮัดสัน แม่น้ำที่กั้นระหว่างรัฐนิวยอร์กกับรัฐนิวเจอร์ซี โดยที่ผู้โดยสาร 150 คน (มีคนแก่นั่งรถเข็นและเด็กทารกด้วย) พร้อมทั้งลูกเรือ 5 คน รอดชีวิตทั้งหมด เหตุการณ์นี้จึงได้รับการขนานนามว่า ปาฏิหาริย์ที่แม่น้ำฮัดสัน (Miracle on the Hudson) และกัปตันซัลลี่กับนักบินผู้ช่วยเจฟฟ์ สไกลส์ ก็กลายเป็นฮีโร่ขวัญใจมหาชนโดยทันที
แต่ก็เป็นธรรมดาเวลาเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ขึ้น ก็จะต้องมีการสืบสวน สอบสวน และไต่สวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นความบกพร่องของ “เครื่อง” หรือ “คน” กันแน่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะตั้งธงไว้ว่าเป็นความบกพร่องของคน เพราะถ้าเครื่องบกพร่อง สายการบินกับบริษัทประกันก็ต้องรับไปเต็มๆ อ่ะนะ ดังนั้น กัปตันซัลลี่กับนักบินผู้ช่วยสไกลส์จึงถูกสอบสวนอย่างหนัก ว่าตอนนั้นเครื่องเพิ่งบินขึ้นจากสนามบินลากวาร์เดีย นิวยอร์ก ได้ 3 นาทีเอง แล้วทำไมพอเครื่องดับ กัปตันไม่หันหัวกลับไปลงจอดที่สนามบินลากวาร์เดีย หรือไม่งั้นก็ไปลงสนามบินที่ใกล้ที่สุดคือ สนามบินเทเทอร์โบโร รัฐนิวเจอร์ซี ก็ได้ ทำไมตัดสินใจเอาเครื่องลงกลางแม่น้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะถ้าลงไม่ได้องศาที่พอเหมาะก็มีโอกาสที่เครื่องจะระเบิดได้พอๆ กับตกกระแทกพื้นดิน แถมวันนั้นเป็นวันที่ 15 มกราคม อากาศที่นิวยอร์กกำลังหนาวยะเยือก -6.7 องศา แล้วอุณหภูมิน้ำจะขนาดไหน #นี่ขนาดไม่มีคนตายเมิงยังไล่บี้เขาขนาดนี้ กัปตันซัลลี่จึงต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้ว โดยมีอาชีพการงานทั้งชีวิตเป็นเดิมพัน
หนังเรื่องนี้สร้างจากหนังสือ Highest Duty: My Search for What Really Matters เป็นบันทึกความทรงจำซึ่งเขียนโดยกัปตันซัลลี่เอง ร่วมกับนักเขียน-นักหนังสือพิมพ์นาม เจฟฟรีย์ แซสโลว์ หนังจับเรื่องตั้งแต่เริ่มการสอบสวน โดยนำเหตุการณ์ที่แม่น้ำฮัดสันมาเล่าย้อนเวลา (flashback) สลับกับภาพหลอนของกัปตันเป็นระยะๆ ซึ่งแสดงให้เห็นสภาพจิตใจของกัปตันในช่วงเวลาหลายวันของการสอบสวนได้ดีมากๆ ทั้งยังเป็นวิธีการที่แนบเนียนดีที่จะเผยให้เห็นว่า กัปตันได้ค้นพบอะไรระหว่างการคิดใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อหาวิธีการที่จะแก้ต่างให้ตัวเองและนักบินผู้ช่วย ในการไต่สวนใหญ่โดยคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ (National Transportation Safety Board: NTSB) ที่กำลังจะมาถึง
ทอม แฮงคส์ ผู้รับบทกัปตันซัลลี่ ยอดเยี่ยมเสมอในทุกบทบาท ที่ผ่านมาแกเคยแสดงเป็นคนที่มีตัวตนจริงอยู่หลายเรื่อง หลังๆ นี่ก็มี Captain Phillips (ปี 2013) เล่นเป็นกัปตันเรือสินค้าซึ่งถูกโจรสลัดโซมาเลียจับเป็นตัวประกัน Saving Mr. Banks (ปี 2013) เล่นเป็นวอลต์ ดิสนีย์ Bridge of Spies (ปี 2015) เล่นเป็นเจมส์ โดโนแวน ทนายความที่ได้รับมอบหมายให้ว่าความแก่สายลับโซเวียตในช่วงสงครามเย็น ทุกเรื่องที่แกเล่น ไม่เห็นแกจะต้องพยายามเล่นให้ ‘เหมือน’ คนคนนั้นเลย แกแค่เล่นให้ ‘เป็น’ มนุษย์ที่มีลักษณะนิสัยแบบนั้นซึ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ เท่านั้นเอง #จะนั้นเยอะไปไหน ส่วนผู้รับบทนักบินผู้ช่วยสไกลส์ ได้แก่ อารอน เอ็กฮาร์ต นักแสดงเจ้าบทบาทอีกคนหนึ่ง นี่ก็เล่นเข้าขากันดี๊ดีกับคุณน้าทอม ตั้งแต่ฉากแรกที่ทั้งสองท่านเข้าฉากด้วยกันดิฉันก็รู้สึกแล้วว่า ไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะเรื่องนี้ ชนะมาก (แต่แอบรำคาญลอร่า ลินนีย์ ผู้แสดงเป็นเมียกัปตันนิดนึง บทบาทของนางไม่ค่อยเสริมส่งเรื่องเท่าไหร่ ดูรกๆ เกินๆ พิกล)
ดูจากชื่อหนังสือต้นฉบับ กัปตันซัลลี่ให้ความสำคัญกับ ‘หน้าที่’ มาก หนัง Sully ก็นำเสนอแบบนั้นเช่นเดียวกัน บางที ‘ปาฏิหาริย์’ ที่เกิดขึ้น อาจจะไม่ได้เกิดจากความโชคดีโดยไม่มีเหตุผล แต่เกิดจากการที่ทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดก็เป็นได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราทุกคนก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ทุกวัน ไม่ต้องรอให้โชคช่วย ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่เราดวงดี
สรุป: จ่าย 120 ได้กลับมา 145
