โดย Average Joe
9 สิงหาคม 2012
ที่มารูป: http://www.impawards.com
Jeremy Renner เป็นเหตุผลเดียวจริงๆ ที่ทำให้อยากดู The Bourne Legacy ทั้งๆ ที่ไม่ใช่แฟนประจำของหนังชุดนี้เลย (และเป็นเหตุผลเดียวกับที่ตัดสินใจไปดู Mission: Impossible – Ghost Protocol และ The Avengers ด้วยล่ะ อิอิ)
เวลาดูหนังประเภทสายลับทีไร (เช่น Salt หรือแม้แต่สายลับแนวตลกอย่าง Chuck และ Knight & Day เป็นต้น) ข้าพเจ้าจะเกิดคำถามขึ้นมาในใจทันทีว่า เหล่าคนเก่งเทพๆ พวกนี้ เขาตัดสินใจมาเป็นสายลับได้ยังไงกันนะ นอกจากจะต้องละทิ้งชีวิตส่วนตัว (ตัดขาดจากครอบครัวอย่างสิ้นเชิง แถมห้ามมีเพื่อนหรือคนรักด้วย) งานแต่ละชิ้นก็ต้องเหนื่อยยากกรากกรำ ตกระกำลำบาก เจ็บตัวเจ็บใจไม่รู้จบสิ้น แถมเสี่ยงตายกลายเป็นผีไร้ญาติ ทางการก็ไม่มารับรู้อีก ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเงินแน่ๆ ค่าจ้างจะดีสักแค่ไหนก็คงไม่คุ้มกันหรอกนะ (ถึงดีจริง จะมีเวลาใช้ตังค์ตอนไหนกัน) หากอ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ ก็คงต้องมีอุดมการณ์แรงกล้าแบบผิดมนุษย์มนาจริงๆ เพราะเมื่อทำงานชิ้นหนึ่งสำเร็จ ก็ไม่เห็นมีใครมายกย่องชมเชย ประกาศเกียรติคุณ ฯลฯ (โอเคล่ะว่าคนดีย่อมทำดีจริงโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ธรรมชาติของมนุษย์ควรต้องการกำลังใจจากทางใดทางหนึ่งบ้าง) แต่ถ้าทำผิดพลาด หรือปฏิเสธไม่รับงาน หรือเข้าข่าย “เป็นอันตรายต่อองค์กร” กลับถูกลงโทษหนัก และในกรณีที่ร้ายที่สุดคือ ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกองค์กรของชาติที่ตัวเองจงรักภักดี “สั่งเก็บ” โดยไม่ใยดี เยี่ยงแมวหมาข้างถนน ไม่ว่าจะยังไงก็ดูเหมือนว่า บทสรุปของสายลับคนหนึ่ง ก็มีแต่ ตาย กับ ตาย (แบบไม่มีใครมาเหลียวแลอีกตะหาก) เท่านั้น
และเมื่อสายลับคนหนึ่งลุกขึ้นมาบอกกับองค์กรต้นสังกัดว่า “กรูทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย” ขอปลดแอกจากชีวิตทาสระดับสูงเช่นนี้เสียที เรื่องราวการไล่ล่าชิงไหวชิงพริบ (และเทคโนโลยีไฮเทคเจ๋งๆ) ระหว่างองค์กรลับที่สุดโหด (และเห็นแก่ตัว) กับมนุษย์กึ่งเทพก็บังเกิดขึ้น แอ่น แอน แอ๊นนนน ปังๆๆ ตูม โครม พลั่ก ชัวะ เฟี้ยววว บรึ้นนน เอี๊ยดดด แกร๊งงง เอ๋งงง เมี้ยวว (เย้ย! มาจากไหนนนน)
เฮีย Jeremy Renner ไม่ทำให้ข้าพเจ้าผิดหวังเลยแม้แต่น้อยนิด ไม่ว่าเฮียจะปีนเขา ปีนกำแพง ดำน้ำ ยิงปืน แลกหมัดฟัดผู้ร้าย ถีบประตู โดดข้ามหลังคา ฯลฯ แม้แต่ตอนนั่งเฉยๆ ก็ดูเท่ไปเสียหมด (กรี๊ดดด) จนเกือบลืมไปว่า Rachel Weisz ก็ดี Edward Norton ก็ดี และนักแสดงคนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเลย ฉากแอ็กชันแต่ละฉากที่บรรจงคิดใส่กันเข้ามาอย่างไม่ยั้งมือก็สุดยอดมากๆ โดยเฉพาะฉากขี่รถไล่กันในกรุงมะนิลา มันช่างตื่นเต้นระทึกใจ ลุ้นตัวโก่งกันอยู่ตลอดเวลาเลยจริงๆ
ในส่วนเนื้อเรื่องและบท แอบผิดหวังเล็กน้อยที่ “เรื่องมีแค่นี้เองเรอะ” โชคดีที่ได้นักแสดงระดับเทพหลายคนมาช่วยดึงให้หนังชวนน่าดูอยู่ตลอดเวลา บวกกับฉากโชว์เมพ (ทั้งกำลังและสมอง) ของเฮียพระเอก และฉากแอ็กชันมันยกร่องทั้งหลายก็มาช่วยชดเชยส่วนที่ขาดตรงนี้ได้อย่างดีและเนียน จนเกือบลืมไปว่า “เรื่องมันมีแค่นี้เองเรอะ” ฮ่าๆๆ
8/10 สำหรับหนัง และ 10/10 สำหรับเฮีย Jeremy Renner ฮิ้ววววว ^_^
