ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 053; ดู The Revenant ที่สกาลา หนังยาวเกือบสามชั่วโมง นั่งดูไป ลุ้นไป เกร็งไป เมื่อยก้นก็ต้องอดทนตามประสาคนเบี้ยน้อยหอยน้อย
เมื่อปี ค.ศ.1823 ชนพื้นเมืองอเมริกัน (ที่เราเรียกผิดๆ ตามคุณคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ว่า “อินเดียนแดง” นั้น) แม้จะถูกกวาดล้างไปมากแล้ว แต่ยังไม่ได้ถูกบีบบังคับให้โยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในเขตสงวน ดังนั้น จึงยังมีชนพื้นเมืองบางเผ่าที่เป็นชุมชนเข้มแข็งอยู่ เช่น เผ่าอารีคารา หรือ “รี” ซึ่งมีทั้งกำลังคนและฝีมือการยิงธนูที่แม่นราวจับวาง เป็นที่สะพรึงของคนขาวผู้ไปเบียดเบียนแผ่นดินเขาเป็นอย่างมาก
และแล้ววันหนึ่ง กลุ่มคนขาวที่ทำธุรกิจค้าขนสัตว์ นำโดยผู้พันแอนดรูว์ เฮนรี่ ก็ถูกเผ่ารีโจมตี ขณะกำลังตั้งแคมป์พักผ่อนหลังเสร็จจากการล่าสัตว์เพื่อจะนำขนไปขาย ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนั้นหนีรอดไปได้ด้วยความเก่งกาจของพรานที่ผู้พันเฮนรี่จ้างมานำทาง เขาผู้นั้นมีนามว่า ฮิวจ์ แกลส แต่เจ้ากรรม ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แกลสถูกหมีกรีซลี่ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ทุกคนจึงจำต้องทิ้งเขาไว้ในป่า โดยผู้ที่อาสาอยู่ดูแลเขาก็คือ จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ แต่แล้วอีตาฟิตซ์เจอรัลด์ดันทิ้งแกลสไว้ให้ตายท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ ทั้งๆ ที่แกลสมีแผลเหวอะหวะเต็มตัว เดินไม่ได้ พูดแทบไม่ได้ และไม่มีอาวุธติดตัวแม้แต่มีดเล่มเดียว แม้กระนั้น เขาก็สามารถเอาชีวิตรอดได้อย่างสะบักสะบอม เพื่อที่จะกลับมาแก้แค้น เรื่องราวของแกลสได้รับการบอกเล่าต่อๆ กันมา และมีผู้นำมาเขียนเป็นบทกวี เป็นนวนิยาย รวมทั้งสร้างเป็นหนังเป็นละครก็หลายครั้ง จนกระทั่งในปี 2002 ไมเคิล พังเค่อ (เป็นทั้งนักเขียน ทนายความ และดำรงตำแหน่งทูตพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาประจำองค์การ WTO คนปัจจุบัน) ก็ได้นำเรื่องราวของแกลสมาเขียนเป็นนวนิยาย โดยใช้ชื่อว่า The Revenant: A Novel of Revenge แปลเป็นไทยได้ว่า “ผู้หวนคืนจากความตาย: นวนิยายแห่งการแก้แค้น” (คล้องจองโดยบังเอิญ อิๆๆ)
หนัง The Revenant สร้างมาจากนวนิยายเรื่องนี้ ด้วยฝีมือการกำกับของ อเลฆันโดร กอนซาเลซ อิญาร์ริตู โดยมี ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ รับบทฮิวจ์ แกลส และทอม ฮาร์ดี้ รับบทจอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เนื้อเรื่องอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไร แก้แค้นแล้วจะได้อะไรขึ้นมา แต่หนังก็นำเสนอการเบียดเบียนทำร้ายกันของมนุษย์ได้อย่างชวนให้สะท้อนใจ ทั้งยังแสดงให้เห็นว่า คนเราถ้าไม่ถึงที่ตาย ยังไงก็ไม่ตาย และในเมื่อยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องสู้จนถึงที่สุด ไม่ว่าชีวิตจะโหดร้ายกับเราเพียงใดก็ตาม
ที่มารูป: http://iszlschoolnewspaper.com
อย่างไรก็ดี ความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่เนื้อเรื่องหรือความลึกซึ้งของบท แต่อยู่ที่เทคนิคทางภาพยนตร์ซึ่งอัดแน่นอยู่ในทุกๆ องค์ประกอบ ตามสไตล์ของอิญาร์ริตู โดยเฉพาะการถ่ายภาพของ เอ็มมานูเอล ลูเบซกี (อีกแล้วครับท่าน) ฉากลองเทคตอนต้น ที่เผ่ารีโจมตีคณะของแกลส กับฉากหมีขย้ำแกลสนั่นน่ะ ถ่ายได้ยังง้ายยยย คงซ้อมกันแทบเป็นลมวันละสามตลบ ส่วนด้านการแสดง คุณพี่ลีโอต้องโซโล่เกือบตลอดเรื่องโดยแทบจะไม่ได้ใช้คำพูดเลย แต่ก็สามารถตรึงให้เราอยู่กับแกได้ตลอด การจะทำให้ได้แบบนี้ก็ยากอยู่นะ ในขณะที่ทอม ฮาร์ดี้ เล่นเป็นคนเลวมาก แต่เราก็เข้าใจทุกอย่างและไม่เกลียดแก แบบนี้ก็ทำได้ยากเหมือนกัน #ปรบมือรัว
สรุป: จ่าย 140 ได้กลับมา 160
หมายเหตุ: The Revenant เข้าชิงออสการ์ 12 สาขา
1. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
2. ผู้กำกับยอดเยี่ยม – อเลฆันโดร กอนซาเลซ อิญาร์ริตู (เคยเข้าชิงจาก Babel และเพิ่งชนะรางวัลนี้เมื่อปีที่แล้ว จาก Birdman)
3. นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม – ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (กวาดรางวัลนี้มาแล้วแทบทุกสถาบันรวมทั้งลูกโลกทองคำ เคยเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายจาก What’s Eating Gilbert Grape และสาขานักแสดงนำชายจาก The Aviator, Blood Diamond และ The Wolf of Wall Street)
4. นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม – ทอม ฮาร์ดี้ (เล่นทะลุจอมาตั้งแต่ Inception ยัน Mad Max: Fury Road)
5. ถ่ายภาพยอดเยี่ยม – เอ็มมานูเอล ลูเบซกี (ชิงออสการ์มา 8 ครั้ง ได้มา 2 ครั้งจาก Gravity และ Birdman
ถ้าได้ครั้งนี้อีกก็จะแฮตทริกสามปีซ้อน)
6. ตัดต่อยอดเยี่ยม
7. เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม
8. ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
9. แต่งหน้าทำผมยอดเยี่ยม
10. ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม
11. มิกซ์เสียงยอดเยี่ยม
12. โปรดักชั่นดีไซน์ยอดเยี่ยม
โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
6 กุมภาพันธ์ 2016
(ขอบคุณภาพปกจาก imdb.com)
