ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 031; ใช้บัตรสะสมแต้มของ House Rama RCA ดู When Marnie Was There แอนิเมชันเรื่องล่าสุดและอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายของสตูดิโอจิบลิถ้าผลประกอบการไม่ดีขึ้น หากเป็นเช่นนั้นก็น่าเสียใจ เพราะอะนิเมะของจิบลินอกจากจะมีภาพสวยงามเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมี ‘เสน่ห์’ บางอย่างที่สัมผัสใจคน และนำเสนอสารสำคัญที่เสริมสร้างความเข้าใจโลกและชีวิตในแง่มุมต่างๆ ให้แก่ผู้ชมเสมอ สิ่งที่เจ๋งมากก็คือ แทบทุกเรื่องมีความดาร์ก บางเรื่องก็ดาร์กกันจะจะ บางเรื่องก็ดูใสๆ แต่แอบดาร์ก อย่างเช่นเรื่องนี้นี่ล่ะฮ่ะ
อะนิเมะ When Marnie Was There ดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนของอังกฤษ แต่งโดย โจน จี. โรบินสัน บอกเล่ามิตรภาพของเด็กหญิงสองคน คือ อันนา เด็กที่ไม่เคยมีความสุขเพราะบาดแผลในใจ กับ มาร์นี เด็กสาวสวยที่ไม่รู้ว่ามีตัวตนจริงหรือเปล่า นางอาจจะเป็นคน เป็นผี เป็นจินตนาการ หรือเป็นความฝันของอันนา ก็ดูจะเป็นไปได้ทั้งนั้น จังหวะการขมวดและคลี่คลายปมปริศนานี้ยอดเยี่ยมจนดิฉันเลิกเดา แต่ด้วยความที่ชอบคิดเชื่อมโยงโน่นนี่ ก็เลยพอจะปะติดปะต่อได้ก่อนเรื่องจะเฉลย ซึ่งทำให้ดิฉันน้ำตาไหลพรั่งพรูตั้งแต่ตอนนั้นจนจบเรื่อง คิดถึงตัวเอง คิดถึงคนคนหนึ่งที่จากไปแล้ว คิดถึงเด็กมากมายบนโลกนี้ที่ต้องทนทุกข์จากความโดดเดี่ยวแปลกแยก คิดถึงคนมากมายบนโลกนี้ที่พยายามกล้ำกลืนความเจ็บปวด เยียวยาบาดแผลทั้งมวลในชีวิตแล้วก้าวต่อไป สำหรับดิฉัน นี่คือความดีงามของการ์ตูนจิบลิ มันจะกระทบ กระแทก กระเทือนใจเรา กระตุ้นให้เราเกิดความคิด อันจะนำไปสู่ความเข้าใจว่าเราควรใช้ชีวิตอย่างไรต่อจากนี้ ไม่ว่าเราจะเคยมีประสบการณ์แบบตัวละครหรือไม่ก็ตาม
อนึ่ง ดิฉันชอบชื่อเรื่องมาก ชื่อ “When Marnie Was There” เป็นอดีตกาล จึงบ่งบอกเป็นนัยๆ ถึงคำตอบของปมปริศนา แต่ก็ลวงคนอ่านคนดูให้ไขว้เขวไปด้วยพร้อมๆ กัน เพราะมันตีความได้หลายอย่าง นับเป็นการตั้งชื่อเรื่องที่เรียบง่ายแต่ชาญฉลาดจริงๆ
สรุป: จ่าย 0 ได้กลับมา 120
โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ
26 เมษายน 2558
